แชร์ทริปดูแลผิว ฉบับง่ายมากๆ 2567

การดูแลผิวเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกายก็ตาม เพราะผิวเป็นส่วนที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอกมากที่สุด การดูแลผิวอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ไม่แห้งกร้าน ไม่หมองคล้ำ และดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

สำหรับ ทริปดูแลผิว ฉบับง่ายมากๆ นั้น มีเพียง 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ 2567

1. สครับผิว

การสครับผิวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น สามารถทำได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่อ่อนโยนต่อผิว

2. ทาครีมบำรุง

ครีมบำรุงจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เลือกครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง เช่น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม

3. ทาครีมกันแดด

ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผิวคล้ำเสีย จุดด่างดำ ริ้วรอย

4. เลี่ยงแดด

การหลีกเลี่ยงแดดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผิวจากรังสียูวี หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงกลางวัน สวมหมวก แว่นกันแดด เสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด

นอกจาก 4 ขั้นตอนง่ายๆ ข้างต้นแล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่ช่วยดูแลผิวให้สวยสุขภาพดีได้อีกด้วย เช่น

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผัก ผลไม้ ปลา
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ

การดูแลผิวเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและดูสวยอยู่เสมอ

ผิวใส, allyscrub,ผิวสวยสุขภาพดี

เคล็ดลับหน้าใส ฉบับสาวก่อน 30 แบบไม่พึ่งเข็ม 2567/ 2024

8f3047ea Eea0 4920 9030 42de9aa9d818.jpg

การจะมีผิวหน้าใสไร้ริ้วรอยนั้น สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการรับประทานอาหาร การพักผ่อนให้เพียงพอ และการดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ แต่สำหรับสาวๆ วัยก่อน 30 ที่ยังไม่อยากพึ่งเข็ม การเริ่มต้นดูแลผิวหน้าตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีได้

**

การเลือกน้ำหอมเสริมเสน่ห์สำหรับคนเกิดทั้ง 7 วัน 2567

เคล็ดลับหน้าใส ฉบับสาวก่อน 30 แบบไม่พึ่งเข็ม มีดังนี้

  • ล้างหน้าให้สะอาด ล้างหน้าเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวหน้า ทุกครั้งที่ล้างหน้าควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว และล้างหน้าให้สะอาดหมดจด โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก

วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง เพื่อผิวสวยสุขภาพดี หมดปัญหาสิวกวนใจ

  • ทาครีมกันแดด ครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย SPF 30 ขึ้นไป
  • ทาครีมบำรุงผิว ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้ผิวหน้าได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึก เลือกครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว และเน้นส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ต้านอนุมูลอิสระ และลดเลือนริ้วรอย
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญต่อร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้นและสดใส ดื่มน้ำเปล่าสะอาดวันละ 8-10 แก้ว
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผิวหน้าดูสดใสและสุขภาพดี ควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผักผลไม้ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำร้ายผิว หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำร้ายผิว เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ แสงแดด ฝุ่นละออง เป็นต้น

นอกจากเคล็ดลับข้างต้นแล้ว สาวๆ วัยก่อน 30 ยังสามารถเสริมการดูแลผิวด้วยการทำทรีตเมนต์ต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เช่น การนวดหน้า การมาส์กหน้า การผลัดเซลล์ผิว เป็นต้น

การเริ่มต้นดูแลผิวหน้าตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีได้ในระยะยาว โดยไม่ต้องพึ่งเข็มแต่อย่างใด

tag

รีวิวคลีนิค, หน้าใสไร้สิว, Howtobeauty, รีวิวบิวตี้, บิวตี้รีวิว, ฉีดหน้า, รีวิวพลีชีพ, รักษาสิว, ทำสวยรับปีใหม่, รวมร้านบิวตี้

การเลือกน้ำหอมเสริมเสน่ห์สำหรับคนเกิดทั้ง 7 วัน 2567

62d6ad295800d.jpg

การเลือกน้ำหอมเสริมเสน่ห์สำหรับคนเกิดทั้ง 7 วัน นั้น สามารถทำได้โดยพิจารณาจากนิสัยและบุคลิกของแต่ละวันเกิด ดังนี้

วันอาทิตย์

คนเกิดวันอาทิตย์ เป็นคนที่มีบุคลิกร่าเริง สดใส ชอบความท้าทาย จึงเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นสดชื่น มีชีวิตชีวา เช่น กลิ่นผลไม้ตระกูลซิตรัส กลิ่นดอกไม้ กลิ่นสมุนไพร เป็นต้น ตัวอย่างน้ำหอมที่แนะนำ ได้แก่

สำหรับน้ำหอมผู้ชายงบ 2,000 บาทในปี 2567

12 น้ำหอมผู้หญิง ติดทนนาน กลิ่นหอมยอดนิยม ปี 2023 - แนะนำ

  • ผู้หญิง : Dior J’adore, Chanel Coco Mademoiselle, Gucci Bloom
  • ผู้ชาย : Dolce & Gabbana Light Blue, Versace Eros, Armani Acqua di Gio

วันจันทร์

คนเกิดวันจันทร์ เป็นคนที่มีบุคลิกอ่อนโยน โรแมนติก ชอบความสงบและความมั่นคง จึงเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นหอมหวาน ละมุนละไม เช่น กลิ่นดอกไม้ กลิ่นวานิลลา กลิ่นไม้ เป็นต้น ตัวอย่างน้ำหอมที่แนะนำ ได้แก่

  • ผู้หญิง : Lancome La Vie Est Belle, Yves Saint Laurent Black Opium, Calvin Klein Eternity
  • ผู้ชาย : Tom Ford Black Orchid, Dior Sauvage, Versace Dylan Blue

วันอังคาร

คนเกิดวันอังคาร เป็นคนที่มีบุคลิกฉลาด เฉียบแหลม ชอบความท้าทาย จึงเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นสดชื่น สะอาด ให้ความมั่นใจ เช่น กลิ่นดอกไม้ กลิ่นสมุนไพร กลิ่นเครื่องเทศ เป็นต้น ตัวอย่างน้ำหอมที่แนะนำ ได้แก่

  • ผู้หญิง : Chloé Nomade, Gucci Guilty Black, Marc Jacobs Daisy
  • ผู้ชาย : Hugo Boss The Scent, Giorgio Armani Acqua di Gio Profumo, Dior Homme

วันพุธ

คนเกิดวันพุธ เป็นคนที่มีบุคลิกช่างคิด ช่างวิเคราะห์ ชอบความสร้างสรรค์ จึงเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นหอมละมุน ลึกลับ ให้ความน่าค้นหา เช่น กลิ่นดอกไม้ กลิ่นไม้ กลิ่นเครื่องเทศ เป็นต้น ตัวอย่างน้ำหอมที่แนะนำ ได้แก่

  • ผู้หญิง : Chanel Coco Noir, YSL Black Opium Intense, Tom Ford Velvet Orchid
  • ผู้ชาย : Tom Ford Tobacco Vanille, Dior Homme Intense, Prada Luna Rossa Carbon

วันพฤหัสบดี

คนเกิดวันพฤหัสบดี เป็นคนที่มีบุคลิกมั่นคง จริงจัง ชอบความน่าเชื่อถือ จึงเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นหอมอบอุ่น นุ่มนวล ให้ความน่าดึงดูด เช่น กลิ่นดอกไม้ กลิ่นไม้ กลิ่นเครื่องเทศ เป็นต้น ตัวอย่างน้ำหอมที่แนะนำ ได้แก่

  • ผู้หญิง : Narciso Rodriguez For Her, Elizabeth Arden White Tea, Calvin Klein Eternity Intense
  • ผู้ชาย : Chanel Bleu de Chanel, Dior Sauvage Parfum, Tom Ford Oud Wood

วันศุกร์

คนเกิดวันศุกร์ เป็นคนที่มีบุคลิกร่าเริง สนุกสนาน ชอบความอิสระ จึงเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นหอมสดชื่น เซ็กซี่ ให้ความมั่นใจ เช่น กลิ่นดอกไม้ กลิ่นผลไม้ กลิ่นเครื่องเทศ เป็นต้น ตัวอย่างน้ำหอมที่แนะนำ ได้แก่

  • ผู้หญิง : Marc Jacobs Daisy Love, Victoria’s Secret Bombshell, Rihanna Reb’l Fleur
  • ผู้ชาย : Calvin Klein CK One, D&G Light Blue Eau Intense Pour Homme, Versace Eros Flame

วันเสาร์

คนเกิดวันเสาร์ เป็นคนที่มีบุคลิกสงบเสงี่ยม รักสันโดษ ชอบความหรูหรา จึงเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นหอมอบอุ่น นุ่มนวล ให้ความหรูหรา เช่น กลิ่นดอกไม้ กลิ่นไม้ กลิ่นเครื่องเทศ เป็นต้น ตัวอย่างน้ำหอมที่แนะนำ ได้แก่

  • ผู้หญิง : Lancome Hypnose, Dior Miss Dior, Chanel Coco Mademoiselle Intense
  • ผู้ชาย : Tom Ford Black Orchid, Dior Homme Parfum, Armani Code Absolu

ทั้งนี้ การเลือกน้ำหอมเสริมเสน่ห์สำหรับคนเกิดทั้ง 7 วัน เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกน้ำหอมที่ตนเองชอบและเหมาะกับบุคลิก ซึ่งจะทำให้รู้สึกมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

น้ำหอมผู้ชายงบ 1000 บาท 2567

ติดเทรนด์,น้ําหอมผู้หญิง, มูเตลู , ป้ายยา, ป้ายยาช้อปปิ้ง , กลิ่นหอมติดตัว , กลิ่นตัวหอม , ซื้อของกัน

เปิดความลับ เลือกแหวนยังไงให้เหมาะกับนิ้วมือของเรา 2567/ 2024

แหวนเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน นอกจากจะเป็นเครื่องแสดงฐานะ บ่งบอกถึงรสนิยมแล้ว แหวนยังช่วยเสริมบุคลิกภาพและทำให้นิ้วมือของเราดูสวยขึ้นได้อีกด้วย แต่การเลือกแหวนให้เหมาะกับนิ้วมือของเรานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแหวนแต่ละแบบก็จะมีดีไซน์และรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับรูปทรงของนิ้วมือของเราด้วยเช่นกัน.

แชร์ไอเดียเปลี่ยนลุคง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง 2567/ 2024

วิธีเลือกแหวนให้เหมาะกับนิ้วมือ

ในการเลือกแหวนให้เหมาะกับนิ้วมือนั้น อันดับแรกเราต้องพิจารณาจากรูปทรงของนิ้วมือของเราก่อน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้

  • นิ้วมือเรียวยาว : เหมาะกับแหวนทุกแบบ ไม่ว่าจะแหวนที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่ แหวนที่มีลวดลายหรือเรียบๆ แหวนที่มีหัวแหวนเล็กหรือใหญ่
  • นิ้วมืออวบ : ควรเลือกแหวนที่มีตัวแหวนหนาพอดี ไม่หนามาก เพื่อไม่ให้ดูแน่นจนเกินไป และหัวแหวนเป็นรูปทรงเรียวยาว ทรงไข่ หรือหยดน้ำ จะช่วยอำพรางให้นิ้วดูเรียวยาวมากขึ้น
  • นิ้วมือสั้น : ควรเลือกแหวนที่บางๆเล็กๆ ไม่หนามาก จะช่วยดูเรียวยาวมากขึ้น ควรเลือกหัวแหวนที่เป็นรูปหยดน้ำหรือทรงไข่ยาวคล้ายๆคนที่มีนิ้วรูปร่างอวบ เพื่อไม่ให้นิ้วดูตันมากกว่าเดิม
  • นิ้วมือยาวและผอม : ควรเลือกแหวนที่มีหัวแหวนเห็นได้ชัด หรือมีลวดลายรอบวง แต่เหมาะมากถ้าเลือกใส่เป็นแหวนเซต นอกจากเก๋มากแล้วยังช่วยให้เราอำพรางความยาวและผอมเกินของไปนิ้วเราได้ด้วย

เคล็ดลับในการเลือกแหวน

นอกจากรูปทรงของนิ้วมือแล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นๆ ในการเลือกแหวนให้เหมาะกับนิ้วมือของเราอีก เช่น

  • ควรเลือกแหวนที่มีขนาดพอดีกับนิ้วมือของเรา ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป แหวนที่หลวมเกินไปจะทำให้แหวนหลุดง่าย ส่วนแหวนที่แน่นเกินไปจะทำให้นิ้วของเรารู้สึกอึดอัด
  • ควรเลือกแหวนที่ทำจากวัสดุที่เหมาะกับการใช้งานของเรา เช่น แหวนทองคำหรือแหวนเงิน สำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน ส่วนแหวนเพชรหรือแหวนพลอย ควรใส่ในโอกาสพิเศษ
  • ควรเลือกแหวนที่มีสีสันเข้ากับสีผิวของเรา เช่น คนผิวขาวควรเลือกแหวนสีเงินหรือสีทองขาว ส่วนคนผิวคล้ำควรเลือกแหวนสีทองหรือสีทองเหลือง

คำแนะนำเพิ่มเติม

เทคนิคการเลือกแหวนทอง - YouTube

หากเรายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกแหวนแบบไหนดี แนะนำให้ลองสวมแหวนดูหลายๆ แบบ เพื่อเปรียบเทียบดูว่าแบบไหนเหมาะกับนิ้วมือของเรามากที่สุด ที่สำคัญคือต้องเลือกแหวนที่เราชอบและใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ จะทำให้แหวนของเราดูสวยและเหมาะกับเรามากที่สุดค่ะ

ใส่แหวนเรียกรักตามวันเกิด 2567/ 2024

tags

งานแต่ง,แหวน

ใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิด 2024/ 2567

ใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิด 2024/ 2567

ความเชื่อเรื่องใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิดเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก โดยเชื่อว่าแหวนแต่ละวงมีพลังงานเฉพาะตัวที่สามารถช่วยเสริมดวงชะตาในด้านต่างๆ ให้กับผู้สวมใส่ได้ ความเชื่อนี้มักเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ ซึ่งเชื่อว่าแต่ละวันเกิดมีธาตุประจำวันเกิดที่แตกต่างกันไป และธาตุประจำวันเกิดแต่ละธาตุก็มีอิทธิพลต่อดวงชะตาที่แตกต่างกันไปเช่นกัน

ใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิด 2024/ 2567

สำหรับประเทศไทย ความเชื่อเรื่องใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิดมักเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์จีน โดยเชื่อว่าแต่ละวันเกิดมีธาตุประจำวันเกิดดังนี้

  • วันอังคาร – ธาตุไฟ
  • วันพุธ – ธาตุดิน
  • วันพฤหัสบดี – ธาตุไม้
  • วันศุกร์ – ธาตุน้ำ
  • วันเสาร์ – ธาตุทอง
  • วันอาทิตย์ – ธาตุไฟ

นอกจากธาตุประจำวันเกิดแล้ว ความเชื่อเรื่องใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิดยังเกี่ยวข้องกับอัญมณีอีกด้วย โดยเชื่อว่าอัญมณีแต่ละชนิดก็มีพลังงานเฉพาะตัวที่สามารถช่วยเสริมดวงชะตาในด้านต่างๆ ได้เช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว อัญมณีที่นิยมนำมาใช้ในการเสริมดวงตามวันเกิด ได้แก่

  • ทับทิม – เสริมดวงด้านอำนาจ บารมี ชื่อเสียง
  • มรกต – เสริมดวงด้านความรัก ความสัมพันธ์
  • บุษราคัม – เสริมดวงด้านโชคลาภ เงินทอง
  • ไพลิน – เสริมดวงด้านสุขภาพ ความแข็งแรง
  • เพทาย – เสริมดวงด้านสติปัญญา การเรียนรู้

สำหรับวิธีการใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิดนั้น โดยทั่วไปแล้ว จะเลือกใส่แหวนที่ตรงกับธาตุประจำวันเกิด โดยสามารถใส่ได้ทั้งแหวนที่ทำจากวัสดุใดก็ได้ แต่หากต้องการเสริมดวงด้านใดเป็นพิเศษ อาจเลือกใส่แหวนที่ประดับด้วยอัญมณีที่ตรงกับด้านที่ต้องการเสริมดวงก็ได้

ตัวอย่างการใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิด ได้แก่

  • คนเกิดวันอังคาร – ธาตุไฟ ควรใส่แหวนที่ทำจากทองคำหรือทองแดง หรือแหวนประดับด้วยอัญมณีสีแดง เช่น ทับทิม โกเมน
  • คนเกิดวันพุธ – ธาตุดิน ควรใส่แหวนที่ทำจากเงินหรือเหล็ก หรือแหวนประดับด้วยอัญมณีสีน้ำตาล เช่น มรกต บุษราคัม
  • คนเกิดวันพฤหัสบดี – ธาตุไม้ ควรใส่แหวนที่ทำจากไม้หรือไม้มีค่า หรือแหวนประดับด้วยอัญมณีสีเขียว เช่น มรกต ไพลิน
  • คนเกิดวันศุกร์ – ธาตุน้ำ ควรใส่แหวนที่ทำจากเงินหรือไข่มุก หรือแหวนประดับด้วยอัญมณีสีฟ้า เช่น ไพลิน เทอร์ควอยซ์
  • คนเกิดวันเสาร์ – ธาตุทอง ควรใส่แหวนที่ทำจากทองคำหรือทองแดง หรือแหวนประดับด้วยอัญมณีสีทอง เช่น ทับทิม แซฟไฟร์
  • คนเกิดวันอาทิตย์ – ธาตุไฟ ควรใส่แหวนที่ทำจากทองคำหรือทองแดง หรือแหวนประดับด้วยอัญมณีสีแดง เช่น ทับทิม โกเมน

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิดเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้มีผลทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ยืนยัน ผู้ที่สนใจจะใส่แหวนเสริมดวงจึงควรพิจารณาตามความเหมาะสมและความเชื่อส่วนบุคคลของตนเอง

More:

เคล็ดไม่ลับ, เคล็ดลับ, ทริคง่ายๆ, ทริคดีบอกต่อ, แชร์ทริค, เครื่องประดับ, แหวน, แหวนนําโชค, แชร์ทริค

ใส่แหวนเรียกรักตามวันเกิด 2567/ 2024

How To Ring 1

ความเชื่อเรื่องใส่แหวนเรียกรักตามวันเกิดนั้น เป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยเชื่อว่าการใส่แหวนที่นิ้วและวันเกิดที่เหมาะสม จะช่วยเสริมดวงด้านความรัก ช่วยให้พบรักแท้ สมหวังในความรัก มีชีวิตคู่ที่ราบรื่น และมีความสุข.

แชร์ไอเดียเปลี่ยนลุคง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง 2567/ 2024

วิธีการใส่แหวนเรียกรักตามวันเกิด 2567/ 2024

สามารถเลือกใส่แหวนได้ 2 ข้างมือ คือ ข้างซ้ายและข้างขวา โดยข้างซ้ายจะหมายถึงความรักที่มั่นคงถาวร ส่วนข้างขวาจะหมายถึงความรักที่สนุกสนาน มีชีวิตชีวา

นิ้วที่เหมาะสมในการใส่แหวนเรียกรักตามวันเกิด

  • คนที่เกิดวันอาทิตย์ ควรใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย หรือนิ้วกลางข้างขวา [Image of คนที่เกิดวันอาทิตย์ ควรใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย หรือนิ้วกลางข้างขวา]

How To Ring 1

  • คนที่เกิดวันจันทร์ ควรใส่แหวนที่นิ้วชี้ข้างซ้าย หรือนิ้วนางข้างขวา [Image of คนที่เกิดวันจันทร์ ควรใส่แหวนที่นิ้วชี้ข้างซ้าย หรือนิ้วนางข้างขวา]
  • คนที่เกิดวันอังคาร ควรใส่แหวนที่นิ้วโป้งข้างซ้าย หรือนิ้วกลางข้างขวา [Image of คนที่เกิดวันอังคาร ควรใส่แหวนที่นิ้วโป้งข้างซ้าย หรือนิ้วกลางข้างขวา]
  • คนที่เกิดวันพุธ ควรใส่แหวนที่นิ้วโป้งข้างขวา หรือนิ้วนางข้างซ้าย [Image of คนที่เกิดวันพุธ ควรใส่แหวนที่นิ้วโป้งข้างขวา หรือนิ้วนางข้างซ้าย]
  • คนที่เกิดวันพฤหัสบดี ควรใส่แหวนที่นิ้วชี้ข้างขวา หรือนิ้วกลางข้างซ้าย [Image of คนที่เกิดวันพฤหัสบดี ควรใส่แหวนที่นิ้วชี้ข้างขวา หรือนิ้วกลางข้างซ้าย]
  • คนที่เกิดวันศุกร์ ควรใส่แหวนที่นิ้วนางข้างขวา หรือนิ้วกลางข้างซ้าย [Image of คนที่เกิดวันศุกร์ ควรใส่แหวนที่นิ้วนางข้างขวา หรือนิ้วกลางข้างซ้าย]
  • คนที่เกิดวันเสาร์ ควรใส่แหวนที่นิ้วโป้งข้างขวา หรือนิ้วนางข้างซ้าย [Image of คนที่เกิดวันเสาร์ ควรใส่แหวนที่นิ้วโป้งข้างขวา หรือนิ้วนางข้างซ้าย]

ตัดผมให้เข้ากับรูปหน้าตามกฎ 2.25 นิ้ว 2567

อัญมณีที่เสริมดวงด้านความรัก

นอกจากการเลือกใส่แหวนที่นิ้วและวันเกิดที่เหมาะสมแล้ว การเลือกอัญมณีที่เสริมดวงด้านความรัก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมทำกัน โดยอัญมณีที่เชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงด้านความรัก ได้แก่

  • ทับทิม เชื่อว่าเป็นอัญมณีแห่งความรัก ช่วยให้พบรักแท้ สมหวังในความรัก และมีชีวิตคู่ที่ราบรื่น [Image of ทับทิม อัญมณีแห่งความรัก]
  • มรกต เชื่อว่าเป็นอัญมณีแห่งความสุข ช่วยให้ชีวิตคู่มีความสุข สมหวัง และอุดมสมบูรณ์ [Image of มรกต อัญมณีแห่งความสุข]
  • เพทาย เชื่อว่าเป็นอัญมณีแห่งความเมตตากรุณา ช่วยให้เป็นที่รักของผู้อื่น และพบรักที่อบอุ่น
  • ไพลิน เชื่อว่าเป็นอัญมณีแห่งความมั่นคง ช่วยให้ชีวิตคู่มั่นคง ยืนยง และยั่งยืน [Image of ไพลิน อัญมณีแห่งความมั่นคง]
  • มุก เชื่อว่าเป็นอัญมณีแห่งความรักที่บริสุทธิ์ ช่วยให้พบรักที่จริงใจ และมั่นคง

ความเชื่อเรื่องใส่แหวนเรียกรักตามวันเกิด เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่ได้มีผลทางวิทยาศาสตร์

แชร์ไอเดียเปลี่ยนลุคง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง 2567/ 2024

การเปลี่ยนลุคเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ตัวเองดูสดใสและมั่นใจขึ้นได้ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเงินหรือเสียเวลามากนัก มาดูไอเดียเปลี่ยนลุคง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเองกันดีกว่า

1. เปลี่ยนทรงผม

ทรงผมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ใบหน้าของเราดูเปลี่ยนไป ทรงผมใหม่ๆ จะช่วยเสริมรูปหน้าและบุคลิกของเราให้ดูดีขึ้นได้ ตัวอย่างทรงผมที่เปลี่ยนลุคได้ เช่น ผมสั้นแบบบ็อบ ผมยาวดัดลอน ผมเปีย ผมถัก เป็นต้น

29 ไอเดีย ผมบ๊อบสั้น ง่ายๆ ไม่ต้องทำเยอะ ก็สวย

[Image of ทรงผมบ็อบ]

29 ไอเดีย ผมดัดปลาย ทำแล้วดูหน้าเด็ก ลดอายุ

[Image of ทรงผมดัดลอน] [Image of ทรงผมเปีย]

ทรงผมเปียสาวผมสั้น 10 ทรงเริด ๆ เปลี่ยนสไตล์ให้สวยเก๋แบบไม่จำเจ

[Image of ทรงผมถัก]

2. เปลี่ยนสีผม

สีผมเป็นอีกวิธีที่ช่วยเปลี่ยนลุคได้ง่ายๆ การเลือกสีผมให้เหมาะกับสีผิวและสไตล์การแต่งตัวของเราจะช่วยให้เราดูโดดเด่นและมั่นใจขึ้นได้ ตัวอย่างสีผมที่เปลี่ยนลุคได้ เช่น สีบลอนด์ สีน้ำตาล สีดำ สีชมพู สีม่วง เป็นต้น

30 ผมสีบลอนด์สว่าง สำหรับคนชิคๆ หน้าสว่างไบร์ทมากแม่!

[Image of สีผมบลอนด์] [Image of สีผมน้ำตาล] [Image of สีผมดำ] [Image of สีผมชมพู] [Image of สีผมม่วง]

3. แต่งหน้า

การแต่งหน้าสามารถช่วยเปลี่ยนลุคของเราได้หลากหลายรูปแบบ การเลือกเครื่องสำอางให้เหมาะกับสีผิวและสไตล์การแต่งตัวของเราจะช่วยให้เราดูสวยและมั่นใจขึ้นได้ ตัวอย่างการแต่งหน้าที่เปลี่ยนลุคได้ เช่น การแต่งหน้าแบบใสๆ การแต่งหน้าแบบสายฝอ การแต่งหน้าแบบเกาหลี เป็นต้น [Image of การแต่งหน้าแบบใสๆ] [Image of การแต่งหน้าแบบสายฝอ] [Image of การแต่งหน้าแบบเกาหลี]

4. เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว

สไตล์การแต่งตัวก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลุคของเราเปลี่ยนไป การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับรูปร่างและสไตล์การแต่งตัวของเราจะช่วยให้เราดูดีและมั่นใจขึ้นได้ ตัวอย่างสไตล์การแต่งตัวที่เปลี่ยนลุคได้ เช่น สไตล์มินิมอล สไตล์วินเทจ สไตล์บอยๆ เป็นต้น [Image of สไตล์มินิมอล] [Image of สไตล์วินเทจ] [Image of สไตล์บอยๆ]

5. เปลี่ยนเครื่องประดับ

เครื่องประดับเป็นอีกสิ่งที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับลุคของเราได้ การเลือกเครื่องประดับให้เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวของเราจะช่วยให้เราดูโดดเด่นและมั่นใจขึ้นได้ ตัวอย่างเครื่องประดับที่เปลี่ยนลุคได้ เช่น ต่างหู สร้อยคอ แหวน เข็มขัด เป็นต้น [Image of ต่างหู] [Image of สร้อยคอ] [Image of แหวน] [Image of เข็มขัด]

6. เปลี่ยนบุคลิกภาพ

บุคลิกภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลุคของเราเปลี่ยนไป การมีบุคลิกภาพที่ดีจะช่วยให้เราดูมั่นใจและน่าดึงดูดขึ้นได้ ตัวอย่างบุคลิกภาพที่เปลี่ยนลุคได้ เช่น บุคลิกภาพแบบมั่นใจ บุคลิกภาพแบบร่าเริง บุคลิกภาพแบบอ่อนโยน เป็นต้น

การเปลี่ยนลุคเป็นวิธีที่ช่วยให้เราดูสดใสและมั่นใจขึ้นได้ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเงินหรือเสียเวลามากนัก เลือกไอเดียที่เหมาะกับตัวเองและลองนำไปทำดู รับรองว่าคุณจะดูดีและมั่นใจขึ้นแน่นอน

ตัดผมให้เข้ากับรูปหน้าตามกฎ 2.25 นิ้ว 2567

กฎ 2.25 นิ้ว เป็นทฤษฎีการทรงผมที่คิดค้นโดย John Frieda นักออกแบบทรงผมชื่อดังจากอังกฤษ โดยกฎนี้ใช้วัดระยะจากติ่งหูลงมาถึงปลายคาง ถ้าระยะน้อยกว่า 2.25 นิ้ว ถือว่าใบหน้าเหมาะกับการตัดผมสั้น แต่ถ้าเกินกว่านั้นจะเหมาะกับผมยาว

หลักการของกฎ 2.25 นิ้ว

ใบหน้าของคนเราแต่ละคนจะมีรูปทรงที่แตกต่างกันไป การตัดผมให้เข้ากับรูปหน้าจะช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลและสวยงามยิ่งขึ้น โดยกฎ 2.25 นิ้ว จะใช้ความยาวของช่วงติ่งหูถึงปลายคางเป็นตัวกำหนดว่าใบหน้าเหมาะกับผมสั้นหรือผมยาว

อยากผมสั้นต้องรู้! เทคนิคง่ายๆ ให้คุณวัดความยาวผมก่อนตัดสั้นว่าจะเข้ากับหน้าเราหรือไม่ - JEAB.com

ใบหน้าที่เหมาะกับผมสั้น

ใบหน้าที่เหมาะกับผมสั้นจะมีระยะจากติ่งหูถึงปลายคางน้อยกว่า 2.25 นิ้ว ใบหน้าลักษณะนี้มักจะมีเหลี่ยมมุมที่เด่นชัด เช่น หน้ารูปไข่ หน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้ารูปเพชร การตัดผมสั้นจะช่วยเน้นให้เห็นเหลี่ยมมุมของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูกระชับและเรียวขึ้น

ใบหน้าที่เหมาะกับผมยาว

ใบหน้าที่เหมาะกับผมยาวจะมีระยะจากติ่งหูถึงปลายคางมากกว่า 2.25 นิ้ว ใบหน้าลักษณะนี้มักจะมีรูปทรงที่โค้งมน เช่น หน้ารูปกลม หน้ารูปหัวใจ การตัดผมยาวจะช่วยปกปิดเหลี่ยมมุมของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูยาวขึ้นและเรียวลง

ตัวอย่างทรงผมสั้นที่เหมาะกับใบหน้าตามกฎ 2.25 นิ้ว

  • ทรงบ็อบสั้น
  • ทรงบ็อบยาว
  • ทรงทรงสั้นประบ่า
  • ทรงทรงสั้นสไลด์

ตัวอย่างทรงผมยาวที่เหมาะกับใบหน้าตามกฎ 2.25 นิ้ว

  • ทรงผมยาวตรง
  • ทรงผมยาวดัดลอน
  • ทรงผมยาวดัดลอนใหญ่
  • ทรงผมยาวสไลด์

ข้อควรระวัง

กฎ 2.25 นิ้วเป็นเพียงทฤษฎีในการตัดผมเท่านั้น การเลือกทรงผมที่เหมาะสมกับรูปหน้ายังต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ความหนา ความหยักศกของเส้นผม สไตล์การแต่งตัว ความชอบส่วนตัว เป็นต้น

อัพเดท 5 เทรนด์แฟชั่น 2023 ที่ฮิตถึง 2024

อัพเดท 5 เทรนด์แฟชั่น 2023 ที่ฮิตถึง 2024

เทรนด์แฟชั่นปี 2023 ยังคงได้รับอิทธิพลจากกระแสความยั่งยืนและความเป็นตัวของตัวเอง ผู้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงนิยมเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ผู้คนยังต้องการแสดงออกถึงตัวตนและสไตล์ของตัวเอง จึงนิยมเสื้อผ้าที่มีดีไซน์แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร

จากกระแสเหล่านี้ ทำให้เทรนด์แฟชั่นปี 2023 มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมต่อไปในปี 2024 ดังนี้

1. เสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล

เทรนด์นี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เสื้อผ้าจากวัสดุรีไซเคิล เช่น ผ้าฝ้ายรีไซเคิล ผ้าโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล ผ้าขนสัตว์รีไซเคิล นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะแล้ว ยังช่วยประหยัดทรัพยากรอีกด้วย

อัพเดท 5 เทรนด์แฟชั่น 2023 ที่ฮิตถึง 2024

2. เสื้อผ้าที่มีดีไซน์แปลกใหม่

ผู้คนต้องการแสดงออกถึงตัวตนและสไตล์ของตัวเอง จึงนิยมเสื้อผ้าที่มีดีไซน์แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร เช่น เสื้อผ้าที่มีลวดลายกราฟิก เสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส เสื้อผ้าที่มีดีเทลโดดเด่น

3. เสื้อผ้าสไตล์มินิมอล

เทรนด์นี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเสื้อผ้าสไตล์มินิมอลให้ความเรียบง่ายแต่ดูดีมีสไตล์ เหมาะกับทุกโอกาส

4. เสื้อผ้าสไตล์วินเทจ

เทรนด์นี้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เนื่องจากเสื้อผ้าสไตล์วินเทจให้ความรู้สึกคลาสสิกและไม่เหมือนใคร

5. เสื้อผ้าสไตล์สตรีทแวร์

เทรนด์นี้ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาหลายปี เนื่องจากเสื้อผ้าสไตล์สตรีทแวร์ให้ความคล่องตัวและเหมาะกับทุกโอกาส

นอกจากเทรนด์แฟชั่นที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเทรนด์แฟชั่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น เสื้อผ้าสไตล์ Y2K เสื้อผ้าสไตล์คอสเพลย์ เสื้อผ้าสไตล์ซาฟารี เสื้อผ้าสไตล์เอธิโอเปีย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เทรนด์แฟชั่นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้น สิ่งสำคัญคือควรเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับตัวเองและเหมาะกับโอกาสต่างๆ มากกว่าการตามเทรนด์แฟชั่นมากเกินไป

อัพเดท!เทรนด์สี 2024/ 2567

อัพเดท!เทรนด์สี 2024

เทรนด์สีในปี 2024 สะท้อนให้เห็นถึงโลกยุคใหม่ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างมองหาความแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กับการรักษาสมดุลระหว่างความวิตกกังวลกับการมองโลกในแง่ดี สีสันในปีนี้จึงมาพร้อมกับความรู้สึกของความสดใหม่ผ่านการมองโลกในแง่มุมใหม่ ๆ ให้เราได้ก้าวออกจากเฉดสีเดิม ๆ ที่สามารถจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันของเราได้มากขึ้น

ใส่แหวนเสริมดวง 2567

สำนักเทรนด์ต่าง ๆ ได้ออกมาประกาศเทรนด์สีประจำปี 2024 ดังนี้

  • Pantone ประกาศให้สี Very Peri เป็นสีแห่งปี 2024 เป็นเฉดสีม่วง-น้ำเงินที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงโลกยุคใหม่ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • Coloro ประกาศให้สี Emerald Mood เป็นสีแห่งปี 2024 เป็นเฉดสีเขียวมรกตที่สื่อถึงความสงบและความหรูหรา
  • TCDC ประกาศให้สี Brave Ground เป็นสีแห่งปี 2024 เป็นเฉดสีเบจแกมทองที่สื่อถึงความผ่อนคลายและความอบอุ่น

นอกจากนี้ ยังมีเฉดสีอื่น ๆ ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมในปี 2024 อีกด้วย ดังนี้

  • สีชมพูพาสเทล สื่อถึงความอ่อนโยนและความโรแมนติก
  • สีเหลืองสดใส สื่อถึงความสดใสและมีชีวิตชีวา
  • สีแดงร้อนแรง สื่อถึงความมั่นใจและอำนาจ
  • สีดำคลาสสิก สื่อถึงความหรูหราและสง่างาม

ปี 2024 กับเทรนด์สีมาแรง!!

มาส่องเทรนด์สี ต้อนรับปี 2024 กันนนน!!อัพเดท!เทรนด์สี 2024สำหรับสีที่มาแรงแซงทางโค้งก็หนีไม่พ้น 6 สีนี้เลยจ้าา1. Cyber Lime : สีเขียวสว่างสดใส ที่นำสมัยและโดดเด่น แถมยังแอบแฝงด้วยความร่าเริง สนุกสนาน ถือว่าเป็นสีแห่งการเริ่มต้นทีนี้เลยทีเดียว

2. Apricot Crush : สีส้มผิวลูกพีช ที่ให้ความรู้สึกหวานซ่อนเปรี้ยว แถมยังเป็นสีที่ทำให้ดูมีสเน่ห์และสะดุดตา

3. Elemental Blue : เป็นสีที่จัดอยู่ในหมวดหมู่ของสีน้ำเงินย้อมคราม เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบ ดูสุภาพแถมเพิ่มความสง่างามและดูสบายตาไม่หวือหวาจนเกินพอดี

4. Nutshell : สีน้ำตาลของเปลือกถั่ว nutshell ที่ให้ความรู้สึกเหมือนรสชาติของมอคค่า ที่ผสมผสานกันระหว่างกาแฟคั่วบดและผงโกโก้ที่เข้มข้นได้อย่างลงตัว เพิ่มความรู้สึกอบอุ่น ละมุนและเรียบง่าย

5.Radiant Red : สีแดงสดที่มีความร้อนแรงและเปล่งประกาย ดูมีเสน่ห์ โดดเด่นสะดุดตา และดูทรงพลัง น่าเกรงขาม

6. Fondant Pink : สีชมพูพาสเทลสดใส ที่แฝงไปด้วยความละมุน น่ารัก และความอ่อนโยน แถมยังดูหวานละมุนคล้ายกับโดนัทเคลือบน้ำตาลรสสตอเบอร์รี่ ที่แม่ว่าจะมีความหวานแก็ยังมีความอมเปรี้ยวนิดๆเพื่อเพิ่มให้รสชาติน่าทานมากยิ่งขึ้น

เทรนด์สีเหล่านี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบต่าง ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น การตกแต่งภายใน การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่การสื่อสารการตลาด เพื่อสร้างความรู้สึกที่สดใหม่และน่าประทับใจให้กับผู้พบเห็น