ผสมแป้งฝุ่นใช้เองตามพี่สาวเกาหลี 2567

Pond 1

เทรนด์การผสมแป้งฝุ่นใช้เองกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สาวเกาหลี โดยสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการนำแป้งฝุ่น Translucent ของ Pond’s มาผสมกับแป้งฝุ่นสูตรอื่น ๆ เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ต้องการ เช่น คุมมัน ปกปิด เบลอรูขุมขน หรือเพิ่มออร่า

**

สอนมือใหม่แต่งตาแบบนวลนัว 2567

ขั้นตอนการผสมแป้งฝุ่นใช้เอง

  1. เตรียมแป้งฝุ่นที่ต้องการผสม โดยควรเลือกแป้งฝุ่นที่มีเนื้อสัมผัสและคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
  2. ตวงแป้งฝุ่นแต่ละสูตรตามต้องการ โดยสูตรที่นิยมคือ แป้งฝุ่น Translucent 70% และแป้งฝุ่นสูตรอื่น ๆ 30%
  3. เทแป้งฝุ่นทั้งสองสูตรลงในภาชนะที่สะอาด
  4. ใช้ไม้พายหรือมือผสมแป้งฝุ่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
  5. เทแป้งฝุ่นที่ผสมแล้วลงในตลับแป้งที่เตรียมไว้

Pond 1

สูตรการผสมแป้งฝุ่น

  • สูตรคุมมัน
    • แป้งฝุ่น Translucent 70%
    • แป้งฝุ่น Oil Control & Anti Acne 30%
  • สูตรปกปิด
    • แป้งฝุ่น Translucent 60%
    • แป้งฝุ่น Perfect Radiance BB 40%
  • สูตรเบลอรูขุมขน
    • แป้งฝุ่น Translucent 70%
    • แป้งฝุ่น Instant Bright Tone Up Milk Powder 30%
  • สูตรเพิ่มออร่า
    • แป้งฝุ่น Translucent 60%
    • แป้งฝุ่น Luminous Glow 40%

คำแนะนำ

  • ควรเลือกแป้งฝุ่นที่มีส่วนผสมและคุณสมบัติที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง
  • ควรผสมแป้งฝุ่นในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรผสมแป้งฝุ่นมากเกินไป เพราะจะทำให้แป้งฝุ่นแห้งและจับตัวเป็นก้อนได้
  • ควรปิดฝาตลับแป้งให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อไม่ให้แป้งฝุ่นแห้งหรือเสื่อมสภาพ
@mynamemiee มาผสมแป้ง Pond’s ตามสไตล์สาวเกาหลีกันค่าา 🇰🇷✨ #แป้งPondsตัวแม่ ♬ เสียงต้นฉบับ – myname 🌈 – MyName

ผลลัพธ์

การผสมแป้งฝุ่นใช้เองจะช่วยให้ได้แป้งฝุ่นที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ โดยสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือสูตรคุมมัน ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าไม่มันเยิ้มระหว่างวัน สูตรปกปิดจะช่วยให้ปกปิดรอยสิวหรือจุดด่างดำบนใบหน้าได้ดี สูตรเบลอรูขุมขนจะช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง และสูตรเพิ่มออร่าจะช่วยให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่งมีออร่า

สำหรับสาว ๆ ที่อยากลองผสมแป้งฝุ่นใช้เอง สามารถหาซื้อแป้งฝุ่น Pond’s ได้ตามร้านค้าทั่วไป หรือทางออนไลน์

tag

ติดเทรนด์#รีวิวบิวตี้
งบน้อยก็ปังได้
สายฝอหรือสายเกา 2567
การแต่งหน้า#เทรนด์บิวตี้
ป้ายยาช้อปปิ้ง 2567

เปลี่ยนตาตกหลบในให้เฉี่ยวคมดูโต

Make Up 1

ใช้แค่เมคอัพก็เปลี่ยนตาตกหลบในให้เฉี่ยวคมดูโตโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ทำได้ไม่เกินจริงเลยค่าาา สาวๆหลายคนที่ตาสองชั้นหลบใน หรือหนังตาเยอะหนังตาตกต้องเคยเจอปัญหากรีดตายังไงก็ไม่เป๊ะ ไม่คมใช่มั้ยคะช่าเองก็เคยประสบปัญหานั้นเหมือนกันค่า วันนี้ช่าเลยเอาวิธีแต่งตายังไงให้ดูโตดูเฉี่ยว มาฝากค่ะขั้นตอนก็ไม่ยากเลยยย

การแต่งหน้าสายฝอฉบับหน้ากลมตาตก 2567

วิธีเปลี่ยนตาตกให้ดูเฉี่ยวคม ดวงตาโต

  1. กรีดอายไลเนอร์แบบเส้นบางๆ โดยเริ่มจากหัวตาไปยังหางตา เน้นความคมและยกหางตาเล็กน้อยเพื่อสร้างลุคตาเฉี่ยว
  2. ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีเข้ม เขียนขอบตาล่างให้ชิดกับแนวขนตาล่าง ลากยาวจากหัวตาไปยังหางตา ช่วยให้ดวงตาดูกลมโตยิ่งขึ้น
  3. ใช้อายแชโดว์สีอ่อน ทาทั่วเปลือกตาก่อนเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับเปลือกตา แล้วใช้สีเข้มกว่าเกลี่ยบริเวณหางตาเพื่อสร้างมิติ
  4. กรีดอายไลเนอร์แบบอินเนอร์ไลน์ ด้วยดินสอเขียนขอบตาสีดำหรือน้ำตาลเข้ม โดยกรีดบริเวณขอบตาบนและล่างใกล้กับโคนขนตา ช่วยเน้นให้ดวงตาดูกลมโต
  5. ใช้มาสคาร่าปัดขนตาให้ยาวและหนา โดยเน้นที่ปลายขนตาให้ cong ให้ชี้อขึ้น เพื่อให้ดวงตาดูโดดเด่นขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น
  6. ติดขนตาปลอม สำหรับผู้ที่มีขนตาสั้นหรือบาง สามารถใช้ขนตาปลอมเพื่อเพิ่มความยาวและความหนาของขนตา ช่วยให้ดวงตาดูโตกลม และดึงดูดสายตามากขึ้น
  7. เล็มคิ้วให้เป็นทรงที่เหมาะกับรูปหน้า คิ้วเป็นกรอบของดวงตา การเล็มคิ้วให้เป็นทรงที่เหมาะกับรูปหน้า จะช่วยให้ดวงตาดูโดดเด่นและมีเสน่ห์มากขึ้น

Make Up 1

ทริคเล็กๆน้อย

ควรใช้ที่เขียนคิ้วสีเหมือนหรือใกล้เคียงกับสีผม จะช่วยให้ดูเข้าและเหมาะสม

แต่งตา ปัดแก้ม และทาลิป โดยใช้สีโทนเดียวกันจะช่วยให้หน้าเป๊ะ ดูเด็กลงและดูเรียบร้อยน่ามอง

@latikastudio01 ตาเฉี่ยวๆเติมน้ำตาลนิดหน่อย ก็ได้แล้วค่ะตาโตๆตาหวานๆ 🥰 #makeup #เมคอัพเปลี่ยนลุค #makeuphacks #makeuptutorial ♬ Write This Down (Instrumental) – SoulChef

เป็นยังไงกันบ้างคะไม่ยากเลยใช่มั้ยยยเพื่อนๆคนไหนลองแต่งแล้วเป็นยังไงมาคอมเม้นแลกเปลี่ยนกันได้ค่าา

tag

#ชั้นตาหลบใน#สอนแต่งตา#howtoแต่งตา#eyemakeup#การแต่งหน้า

การแต่งหน้าสายฝอฉบับหน้ากลมตาตก 2567

Round Face 20

การแต่งหน้าสายฝอเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะสำหรับสาวๆ หน้ากลมตาตก เพราะการแต่งหน้าสไตล์นี้จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวยาว คมชัด และน่ามองมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการแต่งหน้า

  1. เตรียมผิว

เริ่มต้นด้วยการลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดรอยคล้ำใต้ตาและจุดด่างดำ จากนั้นเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นเพื่อล็อกเครื่องสำอางให้ติดทนนาน

  1. คิ้ว

สำหรับสาวๆ หน้ากลมตาตก ควรเขียนคิ้วให้ดูคมชัดและเรียงเส้นสวย โดยเริ่มจากวาดเส้นโครงคิ้วเส้นล่างก่อน จากนั้นใช้ดินสอเขียนคิ้วระบายส่วนที่ว่างให้เต็ม วาดโครงคิ้วเส้นบนลากให้มาบรรจบกับเส้นล่าง ใช้แปรงหัวเรียวจุ่มคอนซีลเลอร์เก็บขอบคิ้วให้คม

Round Face 20

  1. ดวงตา

ใช้อายแชโดว์โทนสีน้ำตาลอ่อนทาทั่วเปลือกตา จากนั้นใช้อายแชโดว์โทนสีน้ำตาลเข้มทาบริเวณขอบตาด้านนอกและโคนขนตาล่าง ลากเส้นอายไลเนอร์ให้คมชัดและยาวขึ้น ติดขนตาปลอมเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับดวงตา

  1. แก้ม

ใช้บลัชออนโทนสีพีชหรือชมพูอ่อนปัดบริเวณโหนกแก้มให้ดูมีมิติ

  1. ปาก

ใช้ลิปสติกโทนสีชมพูนู้ดหรือสีคอรัลทาให้ทั่วริมฝีปาก

เทคนิคการแต่งหน้า

  • ใช้คอนทัวร์บริเวณกรอบหน้าและสันจมูกเพื่อช่วยลดความกลมให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น
  • ปัดดาบแก้มเฉียงขึ้นไปตามโหนกแก้มเพื่อเน้นให้ใบหน้าดูมีมิติ
  • ทาอายไลเนอร์ให้ปลายหางยาวขึ้นและโค้งขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ดวงตาดูเฉี่ยวคม
  • ติดขนตาปลอมแบบเส้นบางๆ จะช่วยทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น
  • เลือกลิปสติกโทนสีอ่อนๆ เพื่อทำให้ใบหน้าดูซอฟต์ลง

ตัวอย่างการแต่งหน้า

สำหรับตัวอย่างการแต่งหน้าสายฝอฉบับหน้ากลมตาตก สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

  1. เตรียมผิว

ลงรองพื้นเนื้อแมทท์ที่ปกปิดขั้นสุด จากนั้นเซ็ตด้วยแป้งฝุ่น

  1. คิ้ว

ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเข้มเขียนโครงคิ้วให้คมชัด จากนั้นใช้แปรงปัดคิ้วจัดแต่งทรงคิ้วให้เรียงเส้นสวย

  1. ดวงตา

ใช้อายแชโดว์โทนสีน้ำตาลอ่อนทาทั่วเปลือกตา จากนั้นใช้อายแชโดว์โทนสีน้ำตาลเข้มทาบริเวณขอบตาด้านนอกและโคนขนตาล่าง ลากเส้นอายไลเนอร์ให้คมชัดและยาวขึ้น ติดขนตาปลอมแบบเส้นบางๆ

  1. แก้ม

ใช้บลัชออนโทนสีพีชปัดบริเวณโหนกแก้มให้ดูมีมิติ

  1. ปาก

ใช้ลิปสติกโทนสีชมพูนู้ดทาให้ทั่วริมฝีปาก

Tips

  • เลือกใช้เครื่องสำอางที่มีเนื้อบางเบา ไม่หนักหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูไม่หนาและดูเป็นธรรมชาติ
  • เลือกเฉดสีเครื่องสำอางให้เข้ากับโทนสีผิว เพื่อให้ใบหน้าดูสว่างสดใส
  • ฝึกฝนการแต่งหน้าบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญและสามารถแต่งหน้าได้สวยอย่างที่ต้องการ

หวังว่าเทคนิคการแต่งหน้าสายฝอฉบับหน้ากลมตาตกนี้ จะช่วยทำให้สาวๆ หน้ากลมตาตกได้แต่งหน้าออกมาสวยคม เฉี่ยวตาแตกได้มากยิ่งขึ้นนะคะ

tag

 

สอนมือใหม่แต่งตาแบบนวลนัว 2567

สอนมือใหม่แต่งตาแบบนวลนัว

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้จะมาสอนสาวที่เพิ่งหัดแต่งหน้ามือใหม่เขียนอายไลน์เนอร์และตกแต่งดวงตาให้สวยคม เหมือนฟิลเตอร์สาวเกาหลีแบบนวลนัวกันนะคะ เลิศไปเลอออ

**

เทคนิคกรีดอายไลเนอร์มือใหม่ แบบละเอียด 2567/ 2024

1. เลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว

การเริ่มต้นแต่งตาแบบนวลนัวคือการเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวรอบดวงตา เพื่อให้ผิวดูสดชื่นและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

2. ลงคอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดจุดด่างดำ

ก่อนลงอายแชโดว์ ให้ใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดจุดด่างดำและรอยคล้ำใต้ตา เพื่อให้สีอายแชโดว์ดูชัดเจนและติดทนนานยิ่งขึ้น

@byeolbich_xe สอนมือใหม่แต่งตาแบบนวลนัว💅🫦 #สอนแต่งหน้า #สอนแต่งตาแบบง่ายๆ #อายแชโดว์ #แต่งตา #สอนแต่งตา #อายแชโดว์odbo ♬ original sound – lucy

3. เลือกใช้โทนสีอายแชโดว์แบบนวลนัว

การแต่งตาแบบนวลนัวควรเลือกใช้โทนสีอายแชโดว์ที่ดูเป็นธรรมชาติและละมุน เช่น สีชมพูอ่อน สีน้ำตาล สีส้มอ่อน และสีทอง ซึ่งจะช่วยสร้างลุคที่ดูนุ่มนวลและไม่ฉูดฉาดจนเกินไป

4. เบลนด์อายแชโดว์ให้เข้ากันอย่างดี

หลังจากลงอายแชโดว์แล้ว ให้ใช้แปรงเบลนด์อายแชโดว์เพื่อเกลี่ยสีให้เข้ากันอย่างดี เพื่อให้ลุคที่ดูละมุนและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

5. เขียนอายไลเนอร์แบบบาง

สำหรับการเขียนอายไลเนอร์ ให้ใช้ดินสอเขียนแบบบางเพื่อสร้างเส้นที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่หนาจนเกินไป เน้นเขียนเฉพาะขอบตาบน โดยเขียนให้ชิดโคนขนตามากที่สุด เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ

6. ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า

หลังจากเขียนอายไลเนอร์แล้ว ให้ใช้ที่ดัดขนตาเพื่อยกขนตาให้ดูงอนเด้ง พร้อมปัดมาสคาร่าเพื่อเพิ่มความหนาและยาวให้กับขนตา โดยเน้นปัดขนตาด้านบนและล่างให้หนาและยาวเท่ากัน

7. เพิ่มไฮไลต์และกรีดอายไลเนอร์หัวตา

หากต้องการเพิ่มความละมุนและสว่างสดใสให้กับดวงตา ให้ใช้ไฮไลต์แตะบริเวณหัวตาและโหนกคิ้ว เพื่อช่วยเบลนด์สีอายแชโดว์ให้ดูกลมกลืนกัน นอกจากนี้ยังสามารถกรีดอายไลเนอร์หัวตาเพื่อสร้างมิติและความคมชัดให้กับดวงตาอีกด้วย

สอนมือใหม่แต่งตาแบบนวลนัว

8. ติดขนตาปลอมและปัดขนคิ้ว

สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความหนาและยาวให้กับขนตา สามารถเลือกติดขนตาปลอมได้ โดยเน้นเลือกขนตาปลอมที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาและยาวจนเกินไป นอกจากนี้ยังต้องปัดขนคิ้วให้เข้ารูปเพื่อให้ใบหน้าดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

tag

#สอนแต่งหน้ามือใหม่
#ปกปิด
#ใต้ตาดำ 2568
#แต่งตาเกาหลี
#ตาบวม 2024
#มือใหม่หัดแต่ง
#ซื้อซ้ำวนไป
#ติดเทรนด์ 2567
#สอนแต่งหน้าตัวเอง
#แต่งหน้าธรรมชาติ

เทคนิคกรีดอายไลเนอร์มือใหม่ แบบละเอียด 2567/ 2024

เทคนิคกรีดอายไลเนอร์มือใหม่ แบบละเอียด

การกรีดอายไลเนอร์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการแต่งหน้า เพราะสามารถช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับดวงตาได้ แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินกับการกรีดอายไลเนอร์อาจเป็นเรื่องยากและทำให้รู้สึกท้อแท้ได้ เทคนิคง่ายๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณกรีดอายไลเนอร์ได้อย่างง่ายดายและสวยงาม

4 ท่าบริหารกับ 1 วิธีสุดล้ำ ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป 2567/ 2024

1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

ก่อนอื่น คุณต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม อุปกรณ์ที่ใช้ในการกรีดอายไลเนอร์มีดังนี้

  • อายไลเนอร์ มีหลายรูปแบบให้เลือก เช่น ดินสอ เจล น้ำ เลือกแบบที่ชอบและถนัด
  • กระจก จะช่วยให้คุณมองเห็นเส้นอายไลเนอร์ได้ชัดเจน
  • ไม้จิ้มฟัน ไว้ใช้แก้ไขเส้นอายไลเนอร์

2. ฝึกกรีดตามแนวเส้นขอบตา

เริ่มต้นด้วยการกรีดตามแนวเส้นขอบตา โดยเริ่มจากบริเวณหัวตาก่อน จากนั้นกรีดตามแนวเส้นขอบตาไปเรื่อยๆ จนสุดหางตา พยายามกรีดให้เส้นเรียบเนียนเท่ากันทั้งสองข้าง

เทคนิคกรีดอายไลเนอร์มือใหม่ แบบละเอียด

3. กรีดหางตาให้เฉี่ยวขึ้น

หากต้องการเพิ่มความเฉี่ยวให้กับดวงตา ให้กรีดหางตาให้เฉียงขึ้นเล็กน้อย โดยเริ่มกรีดจากบริเวณหางตาแล้วค่อยๆ กรีดขึ้นไปยังหัวตา พยายามกรีดให้เส้นเรียวเล็กและคมชัด

@krubow.lifestudio #สอนกรีดไลเนอร์ #ช่างแต่งหน้าเจ้าสาว #รีวิวบิ้วตี้ #wedding #มือใหม่หัดกรีดอายไลเนอร์ ♬ suara asli – Procreate | Digital Art

4. เติมเต็มเส้นอายไลเนอร์

เมื่อกรีดเส้นอายไลเนอร์เรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ไม้จิ้มฟันเติมเต็มเส้นที่ขาดหรือเลอะให้เรียบร้อย

5. เซ็ตอายไลเนอร์ให้ติดทน

เมื่อกรีดอายไลเนอร์เรียบร้อยแล้ว ให้ใช้มาสคาร่าปัดขนตาให้งอนงาม จากนั้นใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อนหรือสีดำทาทับเส้นอายไลเนอร์อีกครั้ง จะช่วยให้อายไลเนอร์ติดทนนานขึ้น

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเราาาาา 2567

เทคนิคอื่นๆ ที่จะช่วยให้การกรีดอายไลเนอร์ง่ายขึ้น

  • เลือกใช้อายไลเนอร์แบบกันน้ำหรือกันเหงื่อ เพราะจะช่วยให้อายไลเนอร์ติดทนนานและไม่เลอะระหว่างวัน
  • กรีดอายไลเนอร์ในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ จะช่วยให้มองเห็นเส้นอายไลเนอร์ได้ชัดเจน
  • ฝึกกรีดอายไลเนอร์บ่อยๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญ

ตัวอย่างการกรีดอายไลเนอร์

  • การกรีดอายไลเนอร์แบบ Cat Eye เป็นที่นิยมมากที่สุด ช่วยให้ดวงตาดูเฉี่ยวและเซ็กซี่
  • การกรีดอายไลเนอร์แบบสโมคกี้อาย ให้ลุคที่ดูลึกลับและน่าค้นหา
  • การกรีดอายไลเนอร์แบบธรรมชาติ ให้ลุคที่ดูเรียบเนียนและสดใส

หวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณกรีดอายไลเนอร์ได้อย่างสวยงามและน่าประทับใจนะคะ

tags

 

4 ท่าบริหารกับ 1 วิธีสุดล้ำ ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป 2567/ 2024

4 ท่าบริหารกับ 1 วิธีสุดล้ำ ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป

หน้าอกเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อและไขมันเป็นหลัก กล้ามเนื้อหน้าอกทำหน้าที่ในการดันหน้าอกให้สูงขึ้นและเต่งตึง ส่วนไขมันหน้าอกทำหน้าที่ในการเติมเต็มหน้าอกให้ดูอวบอิ่ม

viên uống nở ngực Nhật Bản

การออกกำลังกายเพื่อกระชับหน้าอกจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้หน้าอกสูงขึ้นและเต่งตึงขึ้น นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเผาผลาญไขมันหน้าอกส่วนเกิน ทำให้หน้าอกดูกระชับขึ้นอีกด้วย

4 ท่าบริหารกับ 1 วิธีสุดล้ำ ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป

ท่าบริหารหน้าอกที่แนะนำมีดังนี้

ท่า 1 ดันอก (Push-up)

ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบนและกลาง

  1. เริ่มต้นด้วยการนอนคว่ำหน้า วางมือทั้งสองข้างห่างกันเท่ากับช่วงไหล่
  2. ค่อย ๆ ดันตัวขึ้นจนแขนเหยียดตรง ลำตัวเหยียดตรง
  3. ค่อย ๆ ลดตัวลงจนหน้าอกแตะพื้น
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

ท่า 2 ยกดัมเบล (Dumbbell fly)

ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบนและกลาง

  1. เริ่มต้นด้วยการนอนหงาย ยกดัมเบลทั้งสองข้างขึ้นเหนือหน้าอก
  2. ค่อย ๆ กางแขนออกด้านข้างจนดัมเบลขนานกับพื้น
  3. ค่อย ๆ ลดดัมเบลลงกลับมาท่าเริ่มต้น
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

ท่า 3 ดึงข้อ (Pull-up)

ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบนและหลัง

  1. เริ่มต้นด้วยการจับราวโหนด้วยมือทั้งสองข้าง กว้างเท่ากับช่วงไหล่
  2. ค่อย ๆ ดึงตัวขึ้นจนคางอยู่เหนือราวโหน
  3. ค่อย ๆ ลดตัวลงกลับมาท่าเริ่มต้น
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

ท่า 4 ท่าคล้องแขน (Chest fly)

ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบนและกลาง

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนตรง กางแขนออกด้านข้าง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหน้าอก
  2. ค่อย ๆ กางแขนออกด้านข้างจนดัมเบลขนานกับพื้น
  3. ค่อย ๆ ลดดัมเบลลงกลับมาท่าเริ่มต้น
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

วิธีสุดล้ำที่ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป

นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ยังมีวิธีสุดล้ำอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป นั่นก็คือการนวดหน้าอก

การนวดหน้าอกจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองบริเวณหน้าอก ส่งผลให้กล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรงขึ้น ไขมันหน้าอกส่วนเกินถูกเผาผลาญ และหน้าอกดูกระชับขึ้น

เทคนิคการนวดหน้าอกมีดังนี้

  1. เริ่มต้นด้วยการทาน้ำมันหรือโลชั่นที่หน้าอก
  2. ค่อย ๆ ลูบไล้หน้าอกเป็นวงกลมจากด้านนอกเข้าด้านใน
  3. เน้นบริเวณใต้ราวนมและรักแร้
  4. นวดประมาณ 10-15 นาที

ควรนวดหน้าอกเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้หน้าอกสวยเข้ารูปและกระชับขึ้น

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการออกกำลังกายและนวดหน้าอกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น พันธุกรรม น้ำหนักตัว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และวินัยในการนวดหน้าอก

tag

#ออกกำลังกายลดน้ำหนัก
#ออกกําลังกาย
#ออกกำลัง
#สอนออกกำลังกาย 2567
#ออกกําลังกายง่ายๆได้ที่บ้าน
#อกสวย 2024
#ติดเทรนด์
#เสื้อใน
#เสื้อในไร้โครง

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเราาาาา 2567

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเราาาาา

ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเรา

การปัดแก้มให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเรานั้น จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสวยและสมส่วนมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปทรงหน้า มีดังนี้

1. หน้ารูปไข่ (Oval)

รูปหน้ารูปไข่เป็นรูปหน้าที่สวยที่สุดอยู่แล้ว เพราะเป็นรูปหน้าที่สมส่วน จึงไม่ต้องการการปรับแต่งอะไรมากนัก เพียงแค่ปัดแก้มให้เน้นบริเวณโหนกแก้ม จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเราาาาา

[Image of ปัดแก้มรูปหน้ารูปไข่]

2. หน้ารูปทรงกลม (Round)

รูปหน้าทรงกลมนั้น มีสัดส่วนความกว้างและความสูงใกล้เคียงกัน จึงทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม วิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้าทรงกลม คือการปัดแก้มแบบเฉียงขึ้นจากโหนกแก้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าดูยาวขึ้น

@ig.karnnavaz พอรู้รูปหน้าตัวเองการแต่งหน้าก็ง่ายขึ้น! ประหยัดเวลาลองผิดลองถูกไปได้เยอะเลยยย 💖🧏🏻‍♀️✨@Lemon8 TH #Lemon8FaceShape #Lemon8Thailand #Lemon8 ♬ เสียงต้นฉบับ – KARINA (珊珊)

3. หน้ารูปสี่เหลี่ยม (Square)

รูปหน้ารูปสี่เหลี่ยมนั้น มีมุมเหลี่ยมที่เด่นชัด วิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้าทรงสี่เหลี่ยม คือการปัดแก้มแบบแนวนอน จะช่วยทำให้ใบหน้าดูซอฟต์ลง

4. หน้ารูปหัวใจ (Heart)

รูปหน้ารูปหัวใจนั้น มีโหนกแก้มสูงและคางที่แหลม วิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้าทรงหัวใจ คือการปัดแก้มแบบวนๆ บริเวณโหนกแก้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าดูสมส่วนยิ่งขึ้น

5. หน้ารูปสามเหลี่ยม (Triangle)

รูปหน้ารูปสามเหลี่ยมนั้น มีหน้าผากกว้างและคางที่แหลม วิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้าทรงสามเหลี่ยม คือการปัดแก้มแบบเฉียงลงจากโหนกแก้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากยิ่งขึ้น

เคล็ดลับในการปัดแก้ม

  • ควรเลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสีผิว โดยสีที่เหมาะกับสาวผิวขาว คือ สีชมพูอ่อน สีพีช สีชมพูอมส้ม ส่วนสาวผิวสองสีและผิวแทน สามารถใช้สีบลัชออนได้หลากหลายเฉดสี เช่น สีชมพูเข้ม สีพีชอมส้ม สีน้ำตาล
  • ควรใช้แปรงปัดแก้มที่มีขนาดพอดีมือ เพื่อการปัดแก้มที่แม่นยำและเกลี่ยสีให้ดูเนียน
  • ควรลงบลัชออนแบบเบาๆ ทีละน้อย แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นตามต้องการ
  • ควรลงบรอนเซอร์บริเวณกรอบหน้าเล็กน้อย จะช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

เพียงเท่านี้ สาวๆ ก็สามารถปัดแก้มให้เข้ากับรูปทรงหน้าของตนเองได้แล้ว รับรองว่าใบหน้าจะดูสวยและสมส่วนมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

tag

#บิวตี้สายเกา 2567
#Howtoแต่งหน้า
#สายฝอหรือสายเกา
#Howtobeauty

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับตัวเอง?

การปัดแก้มเป็นขั้นตอนสำคัญในการแต่งหน้าที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับใบหน้าและทำให้ดูมีมิติมากขึ้น แต่การปัดแก้มให้สวยและเหมาะกับรูปหน้านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้ากันค่ะ

ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับตัวเอง

1. เลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสีผิว

การเลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสีผิวเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพราะจะช่วยให้ใบหน้าดูสว่างและสดใสขึ้น โดยทั่วไปแล้ว สาวผิวขาวควรเลือกสีบลัชออนโทนสีชมพู พีช คอรัล หรือส้มอ่อน ส่วนสาวผิวสองสีควรเลือกสีบลัชออนโทนสีส้มอิฐ แดงอิฐ น้ำตาล หรือเบอร์กันดี ส่วนสาวผิวคล้ำควรเลือกสีบลัชออนโทนสีน้ำตาลเข้มหรือแดงเข้ม

2. เลือกรูปทรงของแปรงปัดแก้ม

รูปทรงของแปรงปัดแก้มมีผลต่อการกระจายของบลัชออนบนใบหน้า แปรงปัดแก้มทรงกลมจะช่วยให้บลัชออนกระจายตัวทั่วใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ ส่วนแปรงปัดแก้มทรงพุ่มจะช่วยให้บลัชออนกระจายตัวเป็นแนวเฉียง

@jnjennyblog มาเช็กกันว่าเรามีรูปหน้าแบบไหน? แล้วต้องปัดแก้มแบบไหนให้หน้าดูเด็ก 👶🏻 ทำตามทริคใน @Lemon8 Thailand แล้วเวิร์คมากกก #Lemon8FaceShape #Lemon8Thailand #รีวิวบิวตี้ ♬ เสียงต้นฉบับ – jnjenny Blog

3. เลือกเทคนิคการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้า

รูปหน้าแต่ละแบบมีเทคนิคการปัดแก้มที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • หน้ารูปไข่ เป็นรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด สามารถปัดแก้มได้หลายแบบ ที่นิยมคือการปัดแก้มเป็นรูปตัว C หรือรูปหัวใจ
  • หน้ากลม ควรปัดแก้มเป็นรูปตัว C โดยปัดจากโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปทางขมับเล็กน้อย จะช่วยทำให้หน้าดูเรียวขึ้น
  • หน้าเหลี่ยม ควรปัดแก้มเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยปัดจากโหนกแก้มเฉียงลงทางคาง จะช่วยทำให้หน้าดูอ่อนหวานขึ้น
  • หน้ายาว ควรปัดแก้มเป็นรูปวงรี โดยปัดจากโหนกแก้มเฉียงไปทางหูทั้งสองข้าง จะช่วยทำให้หน้าดูสั้นลง
  • หน้ารูปหัวใจ ควรปัดแก้มเป็นรูปตัว C โดยปัดจากโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปทางขมับทั้งสองข้าง จะช่วยทำให้หน้าดูสมส่วนขึ้น

4. ลงบลัชออนอย่างเบามือ

การปัดแก้มควรลงบลัชออนอย่างเบามือ เพื่อให้สีบลัชออนดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนาหรือโป๊ะเกินไป หากต้องการเพิ่มสีสันให้กับแก้มมากขึ้น สามารถลงบลัชออนซ้ำได้อีกครั้ง

5. บรอนเซอร์ช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้า

นอกจากบลัชออนแล้ว บรอนเซอร์ก็เป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น โดยควรปัดบรอนเซอร์บริเวณใต้โหนกแก้ม สันจมูก และคาง จะช่วยให้ใบหน้าดูคมชัดขึ้น

ตัวอย่างเทคนิคการปัดแก้ม

ปัดแก้มเป็นรูปตัว C

เป็นเทคนิคการปัดแก้มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับทุกรูปหน้า โดยปัดบลัชออนจากโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปทางขมับเล็กน้อย จะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติและสดใสขึ้น

ปัดแก้มเป็นรูปหัวใจ

เหมาะสำหรับหน้ารูปไข่ หน้ากลม หรือหน้ารูปหัวใจ โดยปัดบลัชออนจากโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปทางขมับทั้งสองข้าง และปัดวนบริเวณสันจมูกเล็กน้อย จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น

ปัดแก้มเป็นรูปสามเหลี่ยม

เหมาะสำหรับหน้าเหลี่ยม โดยปัดบลัชออนจากโหนกแก้มเฉียงลงทางคางเล็กน้อย จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น

ปัดแก้มเป็นรูปวงรี

เหมาะสำหรับหน้ายาว โดยปัดบลัชออนจากโหนกแก้มเฉียงไปทางหูทั้งสองข้าง จะช่วยให้หน้าดูสั้นลง

ปัดแก้มแบบผสมผสาน

สามารถใช้เทคนิคการปัดแก้มแบบต่างๆ ผสมผสานกันได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้ลุคที่ต้องการ เช่น ปัดตัว C แล้วปัดหัวใจทับ หรือปัดตัวสามเหลี่ยมแล้วปัดวงรีทับ เป็นต้น

เคล็ดลับในการปัดแก้มให้สวย 2567

  • หากปัดแก้มแล้วรู้สึกว่าสีบลัชออนเข้มเกินไป สามารถเกลี่ยด้วยแป้งฝุ่นหรือไฮไลต์เพื่อลดความเข้มลงได้
  • ควรใช้บลัชออนเนื้อฝุ่นหรือเนื้อครีมที่มีคุณภาพดี เพื่อให้สีบลัชออนติดทนนานและเกลี่ยง่าย
  • หากปัดแก้มแล้วรู้สึกว่าหน้าดูโทรม สามารถใช้ไฮไลต์บริเวณโหนกแก้มหรือใต้ตาเพื่อช่วยเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้า

ลองฝึกปัดแก้มตามเทคนิคต่างๆ ที่เราแนะนำไปดูนะคะ รับรองว่าคุณจะปัดแก้มได้อย่างสวยและเหมาะกับรูปหน้าของตัวเองอย่างแน่นอนค่ะ

tag

  • งบน้อยก็ปังได้
  • ติดเทรนด์
  • แต่งหน้า
  • แต่งไงได้งี้ 2024
  • หน้า
  • สวยบอกต่อ
  • สวยแบบมีความรู้
  • สวยขึ้น,
  • สวยแบบตะโกน 2567

3 ทริคปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก ปังยังไงให้เข้ากับรูปหน้า

3 ทริคปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก ปังยังไงให้เข้ากับรูปหน้า

การแต่งหน้าเป็นวิธีที่ช่วยให้สาว ๆ สวยและมั่นใจได้มากขึ้น ซึ่งการปัดแก้มก็เป็นหนึ่งในเทคนิคแต่งหน้าที่ช่วยเสริมให้ใบหน้าดูมีมิติและโดดเด่นขึ้นได้ แต่การปัดแก้มอย่างไรให้ดูหน้าเด็กนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องใส่ใจ เพราะการปัดแก้มผิดวิธีอาจทำให้ใบหน้าดูแก่ลงได้เช่นกัน

Phấn má của Nhật

วันนี้เราจะมาแชร์ 3 ทริคปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก ปังยังไงให้เข้ากับรูปหน้า ไปดูกันเลย

1. เลือกสีบลัชออนให้เหมาะกับสีผิว

สีบลัชออนเป็นสิ่งสำคัญมากในการปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก เพราะสีบลัชออนที่เหมาะกับสีผิวจะทำให้ใบหน้าดูสว่างและสดใสขึ้นได้ โดยสีบลัชออนที่เหมาะกับสาวผิวขาวคือสีชมพูพีช สีพีช หรือสีชมพูอ่อน ส่วนสาวผิวสองสีหรือผิวคล้ำก็สามารถเลือกสีบลัชออนที่เข้มขึ้นได้ เช่น สีชมพูอมส้ม สีพีชอมส้ม หรือสีคอรัล

3 ทริคปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก ปังยังไงให้เข้ากับรูปหน้า

2. เลือกตำแหน่งในการปัดแก้มให้เหมาะสม

ตำแหน่งในการปัดแก้มก็มีส่วนสำคัญในการทำให้ใบหน้าดูเด็กลงเช่นกัน โดยตำแหน่งในการปัดแก้มให้ดูหน้าเด็กนั้น สามารถทำได้ ดังนี้

  • ปัดแก้มบริเวณหางตา เป็นเทคนิคการปัดแก้มที่ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กสดใสน่ารัก โดยให้ลงบลัชออนในบริเวณหางตา ให้ดูเป็นสามเหลี่ยม
  • ปัดแก้มเป็นแนวยาวใต้ตา เป็นเทคนิคการปัดแก้มที่ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น โดยให้ลงบลัชออนเป็นแนวยาวใต้ตา
  • ปัดแก้มเป็นรูปหัวใจ เป็นเทคนิคการปัดแก้มที่ช่วยให้ใบหน้าดูหวานละมุนขึ้น โดยให้ลงบลัชออนเป็นรูปหัวใจบริเวณโหนกแก้ม

3. ลงบลัชออนให้เบามือ

การลงบลัชออนให้เบามือก็มีส่วนสำคัญในการทำให้ใบหน้าดูเด็กลงเช่นกัน เพราะการลงบลัชออนหนักมืออาจทำให้ใบหน้าดูแก่และแข็งกระด้างได้ โดยให้ลงบลัชออนทีละน้อย แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นจนพอดีกับที่ต้องการ

คำแนะนำเพิ่มเติม

นอกจากเทคนิคการปัดแก้มข้างต้นแล้ว สาว ๆ ยังสามารถปัดแก้มให้ดูหน้าเด็กลงได้ โดยเลือกบลัชออนเนื้อแมตต์หรือเนื้อครีม เพราะบลัชออนเนื้อแมตต์หรือเนื้อครีมจะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าบลัชออนเนื้อชิมเมอร์ นอกจากนี้ สาว ๆ ยังสามารถเลือกใช้แปรงปัดแก้มที่มีลักษณะฟูและนุ่ม เพื่อให้การเกลี่ยบลัชออนดูเนียนเป็นธรรมชาติมากขึ้น

และที่สำคัญคือ สาว ๆ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าคุณภาพดี เพราะผลิตภัณฑ์แต่งหน้าคุณภาพดีจะช่วยให้ใบหน้าดูสวยและสุขภาพดียิ่งขึ้น

สอนมือใหม่ปัดแก้มหกรูปแบบ 2567/ 2024

การปัดแก้มเป็นขั้นตอนสำคัญในการแต่งหน้าที่ช่วยเพิ่มสีสันและมิติให้กับใบหน้า มือใหม่หัดแต่งหน้าจึงควรเรียนรู้วิธีปัดแก้มให้ถูกต้องและเหมาะสมกับรูปหน้าของตน

วิธีเลือกสีบรัชออน

สีบรัชออนควรเลือกให้เข้ากับสีผิวและสีผม เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติและสดใสยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้ว มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยสีอ่อนๆ เช่น สีชมพู สีพีช หรือสีส้ม เพื่อให้ง่ายต่อการปัด

@ggiwzy วิธีปัดแก้ม 6 แบบ #fypシ #อย่าปิดการมองเห็นหนู #เอาขึ้นหน้าฟีดที🥺 ♬ Diary – Photomotion Version – SEKAI NO OWARI

วิธีปัดแก้ม

การปัดแก้มมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับรูปหน้าและสไตล์การแต่งหน้าที่ต้องการ ต่อไปนี้เป็นวิธีปัดแก้ม 6 รูปแบบสำหรับมือใหม่

1. ปัดแก้มแบบธรรมชาติ

การปัดแก้มแบบธรรมชาติเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ โดยใช้สีบรัชออนอ่อนๆ ปัดเป็นวงกลมเบาๆ บริเวณโหนกแก้ม

2. ปัดแก้มแบบเกาหลี

การปัดแก้มแบบเกาหลีเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูอ่อนหวาน น่ารัก โดยการปัดบรัชออนสีพีชหรือชมพูอ่อนๆ บริเวณโหนกแก้ม แล้วไล่เฉดสีให้เข้มขึ้นบริเวณปลายแก้ม

3. ปัดแก้มแบบตุ๊กตา

การปัดแก้มแบบตุ๊กตาเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูสดใส น่ารัก โดยการปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ บริเวณโหนกแก้ม แล้วไล่เฉดสีให้เข้มขึ้นบริเวณปลายแก้ม จากนั้นปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชเข้มๆ บริเวณใต้โหนกแก้ม

4. ปัดแก้มแบบฝรั่ง

การปัดแก้มแบบฝรั่งเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูเซ็กซี่ โดยการปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชเข้มๆ บริเวณโหนกแก้ม แล้วไล่เฉดสีให้เข้มขึ้นบริเวณปลายแก้ม

5. ปัดแก้มแบบมุ้งมิ้ง

การปัดแก้มแบบมุ้งมิ้งเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูหวานละมุน โดยการปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ บริเวณโหนกแก้ม แล้วไล่เฉดสีให้เข้มขึ้นบริเวณปลายแก้ม จากนั้นปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชเข้มๆ บริเวณใต้โหนกแก้ม แล้วปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ บริเวณด้านข้างแก้ม

6. ปัดแก้มแบบวินเทจ

การปัดแก้มแบบวินเทจเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูคลาสสิก โดยการปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ บริเวณโหนกแก้ม จากนั้นปัดบรัชออนสีน้ำตาลหรือสีส้มเข้มๆ บริเวณปลายแก้ม

เคล็ดลับในการปัดแก้ม

  • ควรใช้แปรงปัดแก้มที่มีขนนุ่ม เพื่อให้การปัดแก้มดูเนียนเป็นธรรมชาติ
  • ควรปัดแก้มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไปจนทำให้ใบหน้าดูเทอะทะ
  • ควรปัดแก้มให้สม่ำเสมอทั้งสองข้าง เพื่อให้ใบหน้าดูสมดุล

คำแนะนำเพิ่มเติม

นอกจากการเลือกสีบรัชออนและรูปแบบการปัดแก้มที่เหมาะสมแล้ว มือใหม่ควรฝึกฝนการปัดแก้มเป็นประจำ เพื่อให้เกิดความชำนาญและสามารถปัดแก้มให้ออกมาดูสวยได้อย่างรวดเร็ว

tag

#แต่งหน้ามือใหม่
#แต่งตา 2567
#แต่งหน้า
#ติดเทรนด์
#อายแชโดว์
#ปัดแก้ม 2024
#สอนแต่งหน้า
#บลัชออน
#บลัช