Collagen ช่วยเรื่องอะไร? กินอย่างไรให้ได้ผล?

คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ คิดเป็นประมาณ 30% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักของผิวหนัง กระดูกอ่อน เอ็น ข้อต่อ เส้นผม และเล็บ

Collagen Shiseido

คอลลาเจน แบ่งออกเป็น 4 ชนิดตามขนาดโมเลกุล

  1. คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide) มีโมเลกุลใหญ่กว่า 300,000 ดาลตัน
  2. คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide)เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนย่อยจนเหลือกรดอะมิโน 3 ตัวเรียงกัน มีขนาดโมเลกุลเฉลี่ย 500-1000 ดาลตัน มีความสามารถในการดูดซึมได้ในระดับปานกลาง
  3. คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยโดยเอนไซม์ จนเหลือกรดอะมิโน 2 ตัวเรียงกัน มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 200 ดาลตัล จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและมากกว่าคอลลาเจนทั้ง 2 ชนิดแรก
  4. ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้ขนาดอนุภาคที่เล็กที่สุด ที่ยังคงแสดงคุณสมบัติของความเป็นคอลลาเจน ซึ่งขนาดยิ่งเล็กเท่าใดจะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการดูดซึมที่ดียิ่งขึ้น ดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไป 3-4 เท่า

ประโยชน์ของคอลลาเจน ได้แก่

  • ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ คอลลาเจนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวดูกระชับเรียบเนียน ช่วยลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น
  • ช่วยให้กระดูกและข้อต่อแข็งแรง คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของกระดูกอ่อน ซึ่งช่วยรองรับกระดูกและลดแรงกระแทก ทำให้กระดูกและข้อต่อมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น
  • ช่วยให้เส้นผมและเล็บแข็งแรง คอลลาเจนช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของเส้นผมและเล็บ ทำให้เส้นผมไม่หลุดร่วงง่ายและเล็บไม่เปราะหัก

การกินคอลลาเจนให้ได้ผลดี ควรเลือกคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทานคอลลาเจนต่อวัน อยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 มิลลิกรัม

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานคอลลาเจน คือ ตอนท้องว่าง ก่อนรับประทานอาหารประมาณ 30 นาที เนื่องจากร่างกายจะดูดซึมคอลลาเจนได้ดีขึ้นเมื่อท้องว่าง นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำตามให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากการรับประทานคอลลาเจนแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกายได้ เช่น รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม และถั่ว เป็นต้น รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ผักใบเขียว และพริกหวาน เป็นต้น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น

ตัวอย่างอาหารที่มีคอลลาเจนสูง ได้แก่

  • เนื้อสัตว์: เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ ปลา
  • กระดูกอ่อน: น้ำซุปกระดูก น้ำสต็อกกระดูก
  • เอ็น: เอ็นแก้ว เอ็นหมู
  • ถั่ว: ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วเขียว
  • ผักใบเขียว: ผักโขม คะน้า ผักบุ้ง
  • เห็ด: เห็ดหูหนู เห็ดหอม

5 วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุด 2567

เมื่อรู้จักคอลลาเจนแล้ว ก็ต้องรู้วิธีกินคอลลาเจนเพื่อได้รับประโยชน์สูงสุด ดังต่อไปนี้

1. เลือกอาหารที่มีคอลลาเจนสูง

เลือกอาหารที่มีคอลลาเจน เพื่อให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนเพียงพอในแต่ละวัน ตัวอย่างอาหารที่มีคอลลาเจนสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์ กระดูกอ่อน เอ็น ข้อ และยังพบในถั่วหลากสี ผักใบเขียว เห็ดบางชนิด และอาหารทะเล ควบคู่กับการกินอาหารประเภทอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการดูดซึมของคอลลาเจน

2. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน

น้ำในร่างกายช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป หากได้รับน้ำไม่เพียงพอร่างกายก็จะไม่สามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

3. รับประทานอาหารที่มีวิตามินซี

วิตามินซีกับคอลลาเจน เป็นสารอาหารที่เอื้อประโยชน์ต่อการดูดซึม วิตามินซีมีส่วนช่วยในการดูดซึมของคอลลาเจน และจากงานวิจัยพบว่าหากได้รับวิตามินซีที่เหมาะสม ก็จะช่วยลดการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดี

4. กินคอลลาเจนตอนท้องว่าง

หากเลือกกินคอลลาเจนที่เป็นอาหารเสริม ต้องเลือกกินตอนท้องว่าง ก่อนรับประทานอาหาร 30 นาที ในมื้อที่สะดวก และตามปริมาณที่แนะนำข้างฉลาก

5. ไม่กินคอลลาเจนกับน้ำหวาน 

น้ำตาลในน้ำหวานส่งผลให้ร่างกายเกิดกระบวนการไกลเคชั่น ทำให้คอลลาเจนในร่างกายเสื่อมสภาพลง การดูดซึมของคอลลาเจนไม่เต็มประสิทธิภาพ

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกินคอลลาเจน

Q : คอลลาเจนไม่ควรทานกับอะไร

A : คอลลาเจนไม่ควรรับประทานกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหวาน รวมถึงไม่ควรสูบบุหรี่ เพราะสิ่งเหล่านี้ขัดขวางประสิทธิภาพการดูดซึมของคอลลาเจนต่อร่างกาย ดังนั้นควรหลืกเลี่ยง

Q : กินคอลลาเจนเวลาไหนดีที่สุด

A : วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุดควรกินตอนท้องว่าง ก่อนมื้ออาหาร 30 นาที โดยผสมกับน้ำ หรือเครื่องดื่มที่ชอบ

Q : คอลลาเจนกินก่อนนอนได้ไหม

A : คอลลาเจนกินเวลาไหนก็ได้ที่สะดวก แต่หากเป็นคอลลาเจนผงที่ผสมกับสารอื่นๆ ก็ต้องเลือกพิจารณาว่าอาจไม่เหมาะกับการกินก่อนนอน เช่น คอลลาเจนผสมช็อกโกแลต, คอลลาเจนผสมชาเขียว, คอลลาเจนผสมกาแฟ และคอลลาเจนผสมวิตามินบางชนิด เพราะมีผลต่อการตื่นตัว นอนไม่หลับ

..

Q : ควรกินคอลลาเจนวันละกี่มิลลิกรัม

A : ปริมาณคอลลาเจนที่แนะนำต่อวันคือไม่ควรเกิน 10 กรัม หรือ 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน (อ้างอิงตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

Q : กินคอลลาเจนทุกวันอันตรายไหม

A : การกินคอลลาเจนทุกวันนั้นเป็นอันตรายหรือไม่ ยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นที่แน่ชัด เพื่อความปลอดภัยควรรับประทานตามสัดส่วนที่ อย.แนะนำต่อวัน และหากเป็นผู้ที่มีโรคเกี่ยวข้องกับทางเดินอาหาร โรคตับ โรคไต และโรคประจำตัวที่ไม่แน่ใจว่ารับประทานคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมได้หรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ หรือปรึกษานักกำหนดโภชนาการ

หากต้องการรับประทานคอลลาเจนเสริม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากกำกับชัดเจน ระบุแหล่งที่มาและกรรมวิธีการผลิตที่เชื่อถือได้

Ref.

  1. หน่วยคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลhttps://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=3544

  2. https://www.scimath.org/article-chemistry/item/614-vitaminc2

  3. https://chulalongkornhospital.go.th

10 thoughts on “Collagen ช่วยเรื่องอะไร? กินอย่างไรให้ได้ผล?

  1. ดวงอาทิตย์ says:

    คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบในร่างกายของเรา ซึ่งมีหน้าที่หลักในการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวหนัง กระดูก และข้อต่อค่ะ

  2. สายรุ้ง says:

    การกินคอลลาเจนเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการดูแลสุขภาพผิวและความงามให้เปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอกเลยล่ะ

  3. ดอกไม้ทะเล says:

    คอลลาเจนมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย รวมถึงช่วยบำรุงผิว ผม เล็บ และข้อต่อด้วยค่ะ

  4. ภูเขา says:

    ข้อมูลไม่ค่อยตรงประเด็นและไม่มีสาระเท่าไหร่เลย

  5. ทะเล says:

    คอลลาเจนมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายเลยนะ อย่างเช่น ช่วยบำรุงผิว ผม เล็บ และข้อต่อได้

  6. พระจันทร์ says:

    ข้อมูลไม่ค่อยละเอียดเลย ควรมีรายละเอียดวิธีการกินคอลลาเจนให้ได้ผลด้วย

  7. ดาวเหนือ says:

    ข้อมูลที่นำเสนอนั้นขัดแย้งกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้

  8. รุ้งกินน้ำ says:

    ทานคอลลาเจนมากไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น คลื่นไส้ ท้องอืด หรือแม้กระทั่งนิ่วในไตได้นะคะ

  9. เมฆน้อย says:

    คอลลาเจนคืออะไรกันนะ

  10. สายลม says:

    คอลลาเจนเป็นอาหารเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพผิว ผม เล็บ และข้อต่อ

Comments are closed.