6 วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ ที่ช่วยให้หลับสบายขึ้น 2567

คนเราควรนอนวันละกี่ชั่วโมงกันแน่

มูลนิธิการนอนหลับ (National Sleep Foundation) ในสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำแนะนำระยะเวลาการนอนหลับไว้เมื่อปี 2558 โดยแบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้…
  • วัยแรกคลอด – 3 เดือน ควรนอน 14-17 ชั่วโมง
  • วัยทารก 4 เดือน – 1 ปี ควรนอน 12-15 ชั่วโมง
  • วัยเตาะแตะ 1-2 ปี ควรนอน 11-14 ชั่วโมง
  • วัยก่อนเข้าเรียน 3-5 ปี ควรนอน 10-13 ชั่วโมง
  • วัยเข้าโรงเรียน 6-13 ปี ควรนอน 9-11 ชั่วโมง
  • วัยรุ่น 14-17 ปี ควรนอน 8-10 ชั่วโมง
  • วัยผู้ใหญ่ตอนต้น 18-25 ปี ควรนอน 7-9 ชั่วโมง
  • และวัยผู้ใหญ่ 26-64 ปี ควรนอน 7-9 ชั่วโมง
แต่ถึงจะรู้แบบนี้ คนจำนวนไม่น้อยก็ยังต้องเผชิญกับภาวะการณ์นอนหลับไม่สนิท (Fragmented Sleep) หรือนอนหลับยากอาจเกิดจากระบบสั่งการการนอนหลับในสมองมีความผิดปกติ (Circadian Rhythm Sleep Disorder) หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด กรดไหลย้อน โรคซึมเศร้า ภูมิแพ้ หรือแม้กระทั่งลักษณะการทำงานที่เป็นกะกลางวัน/กลางคืน ใครกำลังมีปัญหานอนไม่หลับ ก่อนที่จะมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา เรามี 6 เทคนิคง่ายๆ ช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้นให้ลองทำตาม

การนอนไม่หลับส่งผลกระทบอย่างไร

  • คุณภาพชีวิตที่ดีลดลง
  • อัตราของการขาดงานเพิ่มขึ้น
  • ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
  • ความสามารถในการดำเนินชีวิตลดลง
  • อาจเกิดประสบอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งมีรายงานว่า หากขับรถ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 2.5 เท่า
  • มีการใช้บริการทางแพทย์สูงขึ้น อันเนื่องมาจากปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เฉื่อยชา รู้สึกไม่สดชื่น หงุดหงิด ขาดสมาธิ เป็นต้น
  • การนอนไม่หลับ ในผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคทางจิตเวช มีรายงานพบว่าอาจเสี่ยงต่อการเป็นซ้ำอีก รวมถึงเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นในผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าด้วย

หลังจากที่เราได้ทราบสาเหตุ และผลกระทบของการนอนไม่หลับกันแล้ว เรามาลองดู วิธีแก้อาการนอนไม่หลับกันบ้างนะคะ ลองเอาไปปรับใช้กัน เพื่อเราจะได้แก้ปัญหาในเรื่องการนอนไม่หลับได้

6 วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ ที่ช่วยให้หลับสบายขึ้น

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน

    • เข้าและออกจากเตียงเวลาเดิมทุกวัน แม้แต่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
    • หลีกเลี่ยงการงีบกลางวันหรือจำกัดการงีบไม่เกิน 30 นาที
    • สร้างกิจวัตรประจำวันก่อนนอนที่ผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรืออาบน้ำอุ่น
    • หลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือในเตียง
    • ทำให้ห้องนอนให้มืด สงบ และเย็น
  1. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน

    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่นอนและหมอนมีความสบายและรองรับร่างกายได้ดี
    • ใช้ผ้าม่านทึบแสงเพื่อปิดกั้นแสงสว่างจากภายนอก
    • ใช้เครื่องกรองเสียงหรือเครื่องสร้างเสียงรบกวนสีขาวเพื่อลดเสียงรบกวน
    • รักษาอุณหภูมิห้องให้เย็นสบาย
  1. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก่อนนอน

    • คาเฟอีนและแอลกอฮอล์สามารถรบกวนวงจรการนอนหลับและทำให้คุณตื่นกลางดึก
    • หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ ชา และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอื่นๆ อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน
    • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน เพราะแอลกอฮอล์สามารถทำให้คุณง่วงนอนในตอนแรก แต่จะทำให้คุณตื่นขึ้นมาระหว่างคืน
  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

    • การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับได้
    • อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักภายใน 3 ชั่วโมงก่อนนอน
  1. ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย

    • เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก การทำสมาธิ หรือการโยคะ สามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายขึ้น
    • ลองฝึกเทคนิคการผ่อนคลายเป็นประจำก่อนนอน
  1. ใช้ยาสมุนไพรหรืออาหารเสริม

    • มีสมุนไพรและอาหารเสริมบางชนิดที่อาจช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น เช่น คาโมไมล์ พาชูรี่และเมลาโทนิน
    • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาสมุนไพรหรืออาหารเสริมใดๆ

Ngủ ngon Fancl Nhật Bản

ง่ายใช่ไหมล่ะ ไม่จำเป็นต้องซื้ออะไร หรือขอความช่วยเหลือจากใคร แค่เปลี่ยนที่ตัวเราเองเท่านั้น รู้แบบนี้แล้วใครกำลังเจอกับปัญหาการนอนไม่หลับ อย่าลืมนำไปใช้และบอกต่อกันด้วยนะ ทวงคืนความสุขในการนอนของเรากลับมากันเถอะ

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Cumentalhealth , Saint Louis School

12 thoughts on “6 วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ ที่ช่วยให้หลับสบายขึ้น 2567

  1. Hackneyed Kettle says:

    ฉันทำงานให้กับบริษัทที่ขาดทุน และฉันก็ยังได้รับค่าจ้างสูงกว่าบริษัทที่ทำกำไรได้

  2. Boxer Permit says:

    โอ้ ฉันเกลียดบริษัทใหญ่ พวกเขาไม่เคยจ่ายเงินให้พนักงานอย่างยุติธรรม พวกเขาเอาเปรียบพนักงานเสมอ

  3. Playful Almanac says:

    ฉันเคยทำงานให้กับบริษัทใหญ่และบริษัทเล็กมาแล้ว และฉันพบว่าบริษัทใหญ่จ่ายเงินให้ฉันมากกว่าเสมอ

  4. Quietus Converse says:

    บริษัทที่ทำกำไรได้มักจะจ่ายเงินให้พนักงานสูงกว่าบริษัทที่ขาดทุน นี่เป็นเรื่องง่าย

  5. Drowsy Globetrotter says:

    ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย ขอบคุณสำหรับข้อมูล

  6. Bit Bauble says:

    บริษัทใหญ่จ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทเล็ก บริษัทชั้นนำจ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น บริษัทที่ทำกำไรได้จ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทที่ขาดทุน พูดซ้ำเหมือนหุ่นยนต์เลย

  7. Rambunctious Cherub says:

    บริษัทชั้นนำไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น

  8. Angelma Sash says:

    ฉันไม่แน่ใจว่าบริษัทใหญ่จ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าหรือไม่ แต่ฉันรู้ว่าบริษัทชั้นนำจ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น

  9. Salty Swing says:

    ฉันไม่เชื่อหรอกว่าบริษัทใหญ่จ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทเล็ก

  10. Lanky Hammer says:

    บริษัทชั้นนำจ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น นี่เป็นความจริงมาตลอด

  11. Monthquake Libate says:

    บริษัทใหญ่มักจะจ่ายเงินให้พนักงานสูงกว่าบริษัทเล็ก บริษัทชั้นนำมักจะจ่ายเงินให้พนักงานสูงกว่าบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น บริษัทที่ทำกำไรได้มักจะจ่ายเงินให้พนักงานสูงกว่าบริษัทที่ขาดทุน

  12. Genial Squid says:

    บริษัทใหญ่จ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทเล็ก บริษัทชั้นนำจ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น บริษัทที่ทำกำไรได้จ่ายเงินให้พนักงานมากกว่าบริษัทที่ขาดทุน นี่เป็นเรื่องปกติ

Comments are closed.