4 ท่าบริหารกับ 1 วิธีสุดล้ำ ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป 2567/ 2024

4 ท่าบริหารกับ 1 วิธีสุดล้ำ ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป

หน้าอกเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อและไขมันเป็นหลัก กล้ามเนื้อหน้าอกทำหน้าที่ในการดันหน้าอกให้สูงขึ้นและเต่งตึง ส่วนไขมันหน้าอกทำหน้าที่ในการเติมเต็มหน้าอกให้ดูอวบอิ่ม

viên uống nở ngực Nhật Bản

การออกกำลังกายเพื่อกระชับหน้าอกจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้หน้าอกสูงขึ้นและเต่งตึงขึ้น นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเผาผลาญไขมันหน้าอกส่วนเกิน ทำให้หน้าอกดูกระชับขึ้นอีกด้วย

4 ท่าบริหารกับ 1 วิธีสุดล้ำ ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป

ท่าบริหารหน้าอกที่แนะนำมีดังนี้

ท่า 1 ดันอก (Push-up)

ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบนและกลาง

  1. เริ่มต้นด้วยการนอนคว่ำหน้า วางมือทั้งสองข้างห่างกันเท่ากับช่วงไหล่
  2. ค่อย ๆ ดันตัวขึ้นจนแขนเหยียดตรง ลำตัวเหยียดตรง
  3. ค่อย ๆ ลดตัวลงจนหน้าอกแตะพื้น
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

ท่า 2 ยกดัมเบล (Dumbbell fly)

ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบนและกลาง

  1. เริ่มต้นด้วยการนอนหงาย ยกดัมเบลทั้งสองข้างขึ้นเหนือหน้าอก
  2. ค่อย ๆ กางแขนออกด้านข้างจนดัมเบลขนานกับพื้น
  3. ค่อย ๆ ลดดัมเบลลงกลับมาท่าเริ่มต้น
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

ท่า 3 ดึงข้อ (Pull-up)

ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบนและหลัง

  1. เริ่มต้นด้วยการจับราวโหนด้วยมือทั้งสองข้าง กว้างเท่ากับช่วงไหล่
  2. ค่อย ๆ ดึงตัวขึ้นจนคางอยู่เหนือราวโหน
  3. ค่อย ๆ ลดตัวลงกลับมาท่าเริ่มต้น
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

ท่า 4 ท่าคล้องแขน (Chest fly)

ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกส่วนบนและกลาง

  1. เริ่มต้นด้วยการยืนตรง กางแขนออกด้านข้าง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหน้าอก
  2. ค่อย ๆ กางแขนออกด้านข้างจนดัมเบลขนานกับพื้น
  3. ค่อย ๆ ลดดัมเบลลงกลับมาท่าเริ่มต้น
  4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง

วิธีสุดล้ำที่ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป

นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ยังมีวิธีสุดล้ำอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้หน้าอกสวยเข้ารูป นั่นก็คือการนวดหน้าอก

การนวดหน้าอกจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองบริเวณหน้าอก ส่งผลให้กล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรงขึ้น ไขมันหน้าอกส่วนเกินถูกเผาผลาญ และหน้าอกดูกระชับขึ้น

เทคนิคการนวดหน้าอกมีดังนี้

  1. เริ่มต้นด้วยการทาน้ำมันหรือโลชั่นที่หน้าอก
  2. ค่อย ๆ ลูบไล้หน้าอกเป็นวงกลมจากด้านนอกเข้าด้านใน
  3. เน้นบริเวณใต้ราวนมและรักแร้
  4. นวดประมาณ 10-15 นาที

ควรนวดหน้าอกเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้หน้าอกสวยเข้ารูปและกระชับขึ้น

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการออกกำลังกายและนวดหน้าอกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น พันธุกรรม น้ำหนักตัว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และวินัยในการนวดหน้าอก

tag

#ออกกำลังกายลดน้ำหนัก
#ออกกําลังกาย
#ออกกำลัง
#สอนออกกำลังกาย 2567
#ออกกําลังกายง่ายๆได้ที่บ้าน
#อกสวย 2024
#ติดเทรนด์
#เสื้อใน
#เสื้อในไร้โครง

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเราาาาา 2567

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเราาาาา

ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเรา

การปัดแก้มให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเรานั้น จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสวยและสมส่วนมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปทรงหน้า มีดังนี้

1. หน้ารูปไข่ (Oval)

รูปหน้ารูปไข่เป็นรูปหน้าที่สวยที่สุดอยู่แล้ว เพราะเป็นรูปหน้าที่สมส่วน จึงไม่ต้องการการปรับแต่งอะไรมากนัก เพียงแค่ปัดแก้มให้เน้นบริเวณโหนกแก้ม จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับรูปทรงหน้าของเราาาาา

[Image of ปัดแก้มรูปหน้ารูปไข่]

2. หน้ารูปทรงกลม (Round)

รูปหน้าทรงกลมนั้น มีสัดส่วนความกว้างและความสูงใกล้เคียงกัน จึงทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม วิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้าทรงกลม คือการปัดแก้มแบบเฉียงขึ้นจากโหนกแก้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าดูยาวขึ้น

@ig.karnnavaz พอรู้รูปหน้าตัวเองการแต่งหน้าก็ง่ายขึ้น! ประหยัดเวลาลองผิดลองถูกไปได้เยอะเลยยย 💖🧏🏻‍♀️✨@Lemon8 TH #Lemon8FaceShape #Lemon8Thailand #Lemon8 ♬ เสียงต้นฉบับ – KARINA (珊珊)

3. หน้ารูปสี่เหลี่ยม (Square)

รูปหน้ารูปสี่เหลี่ยมนั้น มีมุมเหลี่ยมที่เด่นชัด วิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้าทรงสี่เหลี่ยม คือการปัดแก้มแบบแนวนอน จะช่วยทำให้ใบหน้าดูซอฟต์ลง

4. หน้ารูปหัวใจ (Heart)

รูปหน้ารูปหัวใจนั้น มีโหนกแก้มสูงและคางที่แหลม วิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้าทรงหัวใจ คือการปัดแก้มแบบวนๆ บริเวณโหนกแก้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าดูสมส่วนยิ่งขึ้น

5. หน้ารูปสามเหลี่ยม (Triangle)

รูปหน้ารูปสามเหลี่ยมนั้น มีหน้าผากกว้างและคางที่แหลม วิธีการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้าทรงสามเหลี่ยม คือการปัดแก้มแบบเฉียงลงจากโหนกแก้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากยิ่งขึ้น

เคล็ดลับในการปัดแก้ม

  • ควรเลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสีผิว โดยสีที่เหมาะกับสาวผิวขาว คือ สีชมพูอ่อน สีพีช สีชมพูอมส้ม ส่วนสาวผิวสองสีและผิวแทน สามารถใช้สีบลัชออนได้หลากหลายเฉดสี เช่น สีชมพูเข้ม สีพีชอมส้ม สีน้ำตาล
  • ควรใช้แปรงปัดแก้มที่มีขนาดพอดีมือ เพื่อการปัดแก้มที่แม่นยำและเกลี่ยสีให้ดูเนียน
  • ควรลงบลัชออนแบบเบาๆ ทีละน้อย แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นตามต้องการ
  • ควรลงบรอนเซอร์บริเวณกรอบหน้าเล็กน้อย จะช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

เพียงเท่านี้ สาวๆ ก็สามารถปัดแก้มให้เข้ากับรูปทรงหน้าของตนเองได้แล้ว รับรองว่าใบหน้าจะดูสวยและสมส่วนมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

tag

#บิวตี้สายเกา 2567
#Howtoแต่งหน้า
#สายฝอหรือสายเกา
#Howtobeauty

Howto ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับตัวเอง?

การปัดแก้มเป็นขั้นตอนสำคัญในการแต่งหน้าที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับใบหน้าและทำให้ดูมีมิติมากขึ้น แต่การปัดแก้มให้สวยและเหมาะกับรูปหน้านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้ากันค่ะ

ปัดแก้มยังไงให้เหมาะกับตัวเอง

1. เลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสีผิว

การเลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสีผิวเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพราะจะช่วยให้ใบหน้าดูสว่างและสดใสขึ้น โดยทั่วไปแล้ว สาวผิวขาวควรเลือกสีบลัชออนโทนสีชมพู พีช คอรัล หรือส้มอ่อน ส่วนสาวผิวสองสีควรเลือกสีบลัชออนโทนสีส้มอิฐ แดงอิฐ น้ำตาล หรือเบอร์กันดี ส่วนสาวผิวคล้ำควรเลือกสีบลัชออนโทนสีน้ำตาลเข้มหรือแดงเข้ม

2. เลือกรูปทรงของแปรงปัดแก้ม

รูปทรงของแปรงปัดแก้มมีผลต่อการกระจายของบลัชออนบนใบหน้า แปรงปัดแก้มทรงกลมจะช่วยให้บลัชออนกระจายตัวทั่วใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ ส่วนแปรงปัดแก้มทรงพุ่มจะช่วยให้บลัชออนกระจายตัวเป็นแนวเฉียง

@jnjennyblog มาเช็กกันว่าเรามีรูปหน้าแบบไหน? แล้วต้องปัดแก้มแบบไหนให้หน้าดูเด็ก 👶🏻 ทำตามทริคใน @Lemon8 Thailand แล้วเวิร์คมากกก #Lemon8FaceShape #Lemon8Thailand #รีวิวบิวตี้ ♬ เสียงต้นฉบับ – jnjenny Blog

3. เลือกเทคนิคการปัดแก้มให้เหมาะกับรูปหน้า

รูปหน้าแต่ละแบบมีเทคนิคการปัดแก้มที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • หน้ารูปไข่ เป็นรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด สามารถปัดแก้มได้หลายแบบ ที่นิยมคือการปัดแก้มเป็นรูปตัว C หรือรูปหัวใจ
  • หน้ากลม ควรปัดแก้มเป็นรูปตัว C โดยปัดจากโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปทางขมับเล็กน้อย จะช่วยทำให้หน้าดูเรียวขึ้น
  • หน้าเหลี่ยม ควรปัดแก้มเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยปัดจากโหนกแก้มเฉียงลงทางคาง จะช่วยทำให้หน้าดูอ่อนหวานขึ้น
  • หน้ายาว ควรปัดแก้มเป็นรูปวงรี โดยปัดจากโหนกแก้มเฉียงไปทางหูทั้งสองข้าง จะช่วยทำให้หน้าดูสั้นลง
  • หน้ารูปหัวใจ ควรปัดแก้มเป็นรูปตัว C โดยปัดจากโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปทางขมับทั้งสองข้าง จะช่วยทำให้หน้าดูสมส่วนขึ้น

4. ลงบลัชออนอย่างเบามือ

การปัดแก้มควรลงบลัชออนอย่างเบามือ เพื่อให้สีบลัชออนดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนาหรือโป๊ะเกินไป หากต้องการเพิ่มสีสันให้กับแก้มมากขึ้น สามารถลงบลัชออนซ้ำได้อีกครั้ง

5. บรอนเซอร์ช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้า

นอกจากบลัชออนแล้ว บรอนเซอร์ก็เป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น โดยควรปัดบรอนเซอร์บริเวณใต้โหนกแก้ม สันจมูก และคาง จะช่วยให้ใบหน้าดูคมชัดขึ้น

ตัวอย่างเทคนิคการปัดแก้ม

ปัดแก้มเป็นรูปตัว C

เป็นเทคนิคการปัดแก้มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับทุกรูปหน้า โดยปัดบลัชออนจากโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปทางขมับเล็กน้อย จะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติและสดใสขึ้น

ปัดแก้มเป็นรูปหัวใจ

เหมาะสำหรับหน้ารูปไข่ หน้ากลม หรือหน้ารูปหัวใจ โดยปัดบลัชออนจากโหนกแก้มเฉียงขึ้นไปทางขมับทั้งสองข้าง และปัดวนบริเวณสันจมูกเล็กน้อย จะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น

ปัดแก้มเป็นรูปสามเหลี่ยม

เหมาะสำหรับหน้าเหลี่ยม โดยปัดบลัชออนจากโหนกแก้มเฉียงลงทางคางเล็กน้อย จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น

ปัดแก้มเป็นรูปวงรี

เหมาะสำหรับหน้ายาว โดยปัดบลัชออนจากโหนกแก้มเฉียงไปทางหูทั้งสองข้าง จะช่วยให้หน้าดูสั้นลง

ปัดแก้มแบบผสมผสาน

สามารถใช้เทคนิคการปัดแก้มแบบต่างๆ ผสมผสานกันได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้ลุคที่ต้องการ เช่น ปัดตัว C แล้วปัดหัวใจทับ หรือปัดตัวสามเหลี่ยมแล้วปัดวงรีทับ เป็นต้น

เคล็ดลับในการปัดแก้มให้สวย 2567

  • หากปัดแก้มแล้วรู้สึกว่าสีบลัชออนเข้มเกินไป สามารถเกลี่ยด้วยแป้งฝุ่นหรือไฮไลต์เพื่อลดความเข้มลงได้
  • ควรใช้บลัชออนเนื้อฝุ่นหรือเนื้อครีมที่มีคุณภาพดี เพื่อให้สีบลัชออนติดทนนานและเกลี่ยง่าย
  • หากปัดแก้มแล้วรู้สึกว่าหน้าดูโทรม สามารถใช้ไฮไลต์บริเวณโหนกแก้มหรือใต้ตาเพื่อช่วยเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้า

ลองฝึกปัดแก้มตามเทคนิคต่างๆ ที่เราแนะนำไปดูนะคะ รับรองว่าคุณจะปัดแก้มได้อย่างสวยและเหมาะกับรูปหน้าของตัวเองอย่างแน่นอนค่ะ

tag

  • งบน้อยก็ปังได้
  • ติดเทรนด์
  • แต่งหน้า
  • แต่งไงได้งี้ 2024
  • หน้า
  • สวยบอกต่อ
  • สวยแบบมีความรู้
  • สวยขึ้น,
  • สวยแบบตะโกน 2567

3 ทริคปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก ปังยังไงให้เข้ากับรูปหน้า

3 ทริคปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก ปังยังไงให้เข้ากับรูปหน้า

การแต่งหน้าเป็นวิธีที่ช่วยให้สาว ๆ สวยและมั่นใจได้มากขึ้น ซึ่งการปัดแก้มก็เป็นหนึ่งในเทคนิคแต่งหน้าที่ช่วยเสริมให้ใบหน้าดูมีมิติและโดดเด่นขึ้นได้ แต่การปัดแก้มอย่างไรให้ดูหน้าเด็กนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องใส่ใจ เพราะการปัดแก้มผิดวิธีอาจทำให้ใบหน้าดูแก่ลงได้เช่นกัน

Phấn má của Nhật

วันนี้เราจะมาแชร์ 3 ทริคปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก ปังยังไงให้เข้ากับรูปหน้า ไปดูกันเลย

1. เลือกสีบลัชออนให้เหมาะกับสีผิว

สีบลัชออนเป็นสิ่งสำคัญมากในการปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก เพราะสีบลัชออนที่เหมาะกับสีผิวจะทำให้ใบหน้าดูสว่างและสดใสขึ้นได้ โดยสีบลัชออนที่เหมาะกับสาวผิวขาวคือสีชมพูพีช สีพีช หรือสีชมพูอ่อน ส่วนสาวผิวสองสีหรือผิวคล้ำก็สามารถเลือกสีบลัชออนที่เข้มขึ้นได้ เช่น สีชมพูอมส้ม สีพีชอมส้ม หรือสีคอรัล

3 ทริคปัดแก้มให้ดูหน้าเด็ก ปังยังไงให้เข้ากับรูปหน้า

2. เลือกตำแหน่งในการปัดแก้มให้เหมาะสม

ตำแหน่งในการปัดแก้มก็มีส่วนสำคัญในการทำให้ใบหน้าดูเด็กลงเช่นกัน โดยตำแหน่งในการปัดแก้มให้ดูหน้าเด็กนั้น สามารถทำได้ ดังนี้

  • ปัดแก้มบริเวณหางตา เป็นเทคนิคการปัดแก้มที่ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กสดใสน่ารัก โดยให้ลงบลัชออนในบริเวณหางตา ให้ดูเป็นสามเหลี่ยม
  • ปัดแก้มเป็นแนวยาวใต้ตา เป็นเทคนิคการปัดแก้มที่ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น โดยให้ลงบลัชออนเป็นแนวยาวใต้ตา
  • ปัดแก้มเป็นรูปหัวใจ เป็นเทคนิคการปัดแก้มที่ช่วยให้ใบหน้าดูหวานละมุนขึ้น โดยให้ลงบลัชออนเป็นรูปหัวใจบริเวณโหนกแก้ม

3. ลงบลัชออนให้เบามือ

การลงบลัชออนให้เบามือก็มีส่วนสำคัญในการทำให้ใบหน้าดูเด็กลงเช่นกัน เพราะการลงบลัชออนหนักมืออาจทำให้ใบหน้าดูแก่และแข็งกระด้างได้ โดยให้ลงบลัชออนทีละน้อย แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นจนพอดีกับที่ต้องการ

คำแนะนำเพิ่มเติม

นอกจากเทคนิคการปัดแก้มข้างต้นแล้ว สาว ๆ ยังสามารถปัดแก้มให้ดูหน้าเด็กลงได้ โดยเลือกบลัชออนเนื้อแมตต์หรือเนื้อครีม เพราะบลัชออนเนื้อแมตต์หรือเนื้อครีมจะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าบลัชออนเนื้อชิมเมอร์ นอกจากนี้ สาว ๆ ยังสามารถเลือกใช้แปรงปัดแก้มที่มีลักษณะฟูและนุ่ม เพื่อให้การเกลี่ยบลัชออนดูเนียนเป็นธรรมชาติมากขึ้น

และที่สำคัญคือ สาว ๆ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าคุณภาพดี เพราะผลิตภัณฑ์แต่งหน้าคุณภาพดีจะช่วยให้ใบหน้าดูสวยและสุขภาพดียิ่งขึ้น

สอนมือใหม่ปัดแก้มหกรูปแบบ 2567/ 2024

การปัดแก้มเป็นขั้นตอนสำคัญในการแต่งหน้าที่ช่วยเพิ่มสีสันและมิติให้กับใบหน้า มือใหม่หัดแต่งหน้าจึงควรเรียนรู้วิธีปัดแก้มให้ถูกต้องและเหมาะสมกับรูปหน้าของตน

วิธีเลือกสีบรัชออน

สีบรัชออนควรเลือกให้เข้ากับสีผิวและสีผม เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติและสดใสยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้ว มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยสีอ่อนๆ เช่น สีชมพู สีพีช หรือสีส้ม เพื่อให้ง่ายต่อการปัด

@ggiwzy วิธีปัดแก้ม 6 แบบ #fypシ #อย่าปิดการมองเห็นหนู #เอาขึ้นหน้าฟีดที🥺 ♬ Diary – Photomotion Version – SEKAI NO OWARI

วิธีปัดแก้ม

การปัดแก้มมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับรูปหน้าและสไตล์การแต่งหน้าที่ต้องการ ต่อไปนี้เป็นวิธีปัดแก้ม 6 รูปแบบสำหรับมือใหม่

1. ปัดแก้มแบบธรรมชาติ

การปัดแก้มแบบธรรมชาติเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ โดยใช้สีบรัชออนอ่อนๆ ปัดเป็นวงกลมเบาๆ บริเวณโหนกแก้ม

2. ปัดแก้มแบบเกาหลี

การปัดแก้มแบบเกาหลีเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูอ่อนหวาน น่ารัก โดยการปัดบรัชออนสีพีชหรือชมพูอ่อนๆ บริเวณโหนกแก้ม แล้วไล่เฉดสีให้เข้มขึ้นบริเวณปลายแก้ม

3. ปัดแก้มแบบตุ๊กตา

การปัดแก้มแบบตุ๊กตาเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูสดใส น่ารัก โดยการปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ บริเวณโหนกแก้ม แล้วไล่เฉดสีให้เข้มขึ้นบริเวณปลายแก้ม จากนั้นปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชเข้มๆ บริเวณใต้โหนกแก้ม

4. ปัดแก้มแบบฝรั่ง

การปัดแก้มแบบฝรั่งเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูเซ็กซี่ โดยการปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชเข้มๆ บริเวณโหนกแก้ม แล้วไล่เฉดสีให้เข้มขึ้นบริเวณปลายแก้ม

5. ปัดแก้มแบบมุ้งมิ้ง

การปัดแก้มแบบมุ้งมิ้งเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูหวานละมุน โดยการปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ บริเวณโหนกแก้ม แล้วไล่เฉดสีให้เข้มขึ้นบริเวณปลายแก้ม จากนั้นปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชเข้มๆ บริเวณใต้โหนกแก้ม แล้วปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ บริเวณด้านข้างแก้ม

6. ปัดแก้มแบบวินเทจ

การปัดแก้มแบบวินเทจเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการแต่งหน้าให้ดูคลาสสิก โดยการปัดบรัชออนสีชมพูหรือพีชอ่อนๆ บริเวณโหนกแก้ม จากนั้นปัดบรัชออนสีน้ำตาลหรือสีส้มเข้มๆ บริเวณปลายแก้ม

เคล็ดลับในการปัดแก้ม

  • ควรใช้แปรงปัดแก้มที่มีขนนุ่ม เพื่อให้การปัดแก้มดูเนียนเป็นธรรมชาติ
  • ควรปัดแก้มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไปจนทำให้ใบหน้าดูเทอะทะ
  • ควรปัดแก้มให้สม่ำเสมอทั้งสองข้าง เพื่อให้ใบหน้าดูสมดุล

คำแนะนำเพิ่มเติม

นอกจากการเลือกสีบรัชออนและรูปแบบการปัดแก้มที่เหมาะสมแล้ว มือใหม่ควรฝึกฝนการปัดแก้มเป็นประจำ เพื่อให้เกิดความชำนาญและสามารถปัดแก้มให้ออกมาดูสวยได้อย่างรวดเร็ว

tag

#แต่งหน้ามือใหม่
#แต่งตา 2567
#แต่งหน้า
#ติดเทรนด์
#อายแชโดว์
#ปัดแก้ม 2024
#สอนแต่งหน้า
#บลัชออน
#บลัช

วิธีการแต่งหน้าฉบับขี้โกงสำหรับมือใหม่

การแต่งหน้าสำหรับมือใหม่นั้นอาจเป็นเรื่องยากและซับซ้อน โดยเฉพาะกับการแต่งหน้าให้ออกมาดูดีแบบไม่โป๊ะ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้เรามีวิธีแต่งหน้าฉบับขี้โกงสำหรับมือใหม่มาฝากกัน รับรองว่าแต่งตามได้ง่ายๆ ใช้เวลาไม่นานก็สวยได้

เคล็ดลับก่อนการแต่งหน้า

ก่อนอื่นเลย สิ่งสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นแต่งหน้าคือการดูแลผิวให้สะอาดและชุ่มชื้น เพราะผิวที่ดีจะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานและดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิวของเราด้วย

@earnsalaryy

กรีดตาสำหรับมือใหม่

♬ Funny video “Carmen Prelude” Arranging weakness(836530) – yo suzuki(akisai)

ขั้นตอนการแต่งหน้า

  1. ลงสกินแคร์และกันแดด

ขั้นตอนแรกคือการดูแลผิวด้วยสกินแคร์ เริ่มจากทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า จากนั้นลงโทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลผิว จากนั้นลงมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และปิดท้ายด้วยกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด

  1. ลงคอนซีลเลอร์

หากมีรอยคล้ำใต้ตาหรือรอยสิว ให้ใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดให้เรียบเนียน

  1. ลงรองพื้น

เลือกรองพื้นที่มีเฉดสีใกล้เคียงกับผิวของเรามากที่สุด จากนั้นลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้า โดยเกลี่ยให้เรียบเนียน เบามือ

kem nền của Nhật

  1. ลงแป้งฝุ่น

ใช้แป้งฝุ่นเซ็ตรองพื้นให้ติดทนนานยิ่งขึ้น

  1. แต่งคิ้ว

ใช้ดินสอเขียนคิ้วหรืออายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อนเขียนคิ้วให้เรียงเส้นสวย

  1. ลงอายแชโดว์

เลือกโทนสีอายแชโดว์ที่ชอบ จากนั้นลงอายแชโดว์ให้ทั่วเปลือกตา โดยเน้นที่บริเวณหัวตาและหางตา

  1. กรีดอายไลเนอร์

ใช้อายไลเนอร์กรีดเส้นขอบตาให้คมชัด โดยเริ่มจากกรีดเส้นขอบตาด้านบนก่อน จากนั้นกรีดเส้นขอบตาด้านล่างตาม

  1. ปัดมาสคาร่า

ปัดมาสคาร่าให้ขนตางอนเด้ง

  1. ทาลิปสติก

เลือกสีลิปสติกที่ชอบ จากนั้นทาลิปสติกให้ทั่วริมฝีปาก

เทคนิคการแต่งหน้า

  • ลงเครื่องสำอางให้บางเบา หลีกเลี่ยงการทาเครื่องสำอางที่หนาจนเกินไป เพราะจะทำให้ดูไม่ธรรมชาติ
  • เลือกใช้เครื่องสำอางที่มีคุณภาพดี เพื่อให้ติดทนนานและดูเรียบเนียน
  • ฝึกฝนการแต่งหน้าเป็นประจำ เพื่อให้ชำนาญและแต่งหน้าได้สวยขึ้น

ตัวอย่างการแต่งหน้าฉบับขี้โกง

ลุคใสๆ

สำหรับลุคใสๆ เน้นการแต่งหน้าให้ดูธรรมชาติ สามารถใช้เครื่องสำอางไม่กี่ชิ้นก็สวยได้แล้ว เริ่มจากลงสกินแคร์และกันแดด จากนั้นลงคอนซีลเลอร์ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาหรือรอยสิว จากนั้นลงรองพื้นบางๆ ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นลงแป้งฝุ่นเซ็ตรองพื้น จากนั้นแต่งคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วหรืออายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อน จากนั้นลงอายแชโดว์โทนสีอ่อนๆ ให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นกรีดอายไลเนอร์บางๆ เส้นเดียวที่ขอบตาด้านบน จากนั้นปัดมาสคาร่าให้ขนตางอนเด้ง และทาลิปสติกสีชมพูอ่อนหรือสีนู้ด

ลุคหวานๆ

สำหรับลุคหวานๆ เน้นการแต่งหน้าให้ดูละมุน สามารถใช้เครื่องสำอางโทนสีชมพูหรือสีพีชได้ เริ่มจากลงสกินแคร์และกันแดด จากนั้นลงคอนซีลเลอร์ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาหรือรอยสิว จากนั้นลงรองพื้นบางๆ ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นลงแป้งฝุ่นเซ็ตรองพื้น จากนั้นแต่งคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วหรืออายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อน จากนั้นลงอายแชโดว์โทนสีชมพูหรือสีพีชให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นกรีดอายไลเนอร์บางๆ เส้นเดียวที่ขอบตาด้านบน จากนั้นปัดมาสคาร่าให้ขนตางอนเด้ง และทาลิปสติกสีชมพูหรือสีพีช

ลุคเปรี้ยวๆ

สำหรับลุคเปรี้ยวๆ เน้นการแต่งหน้าให้ดูโดดเด่น สามารถใช้เครื่องสำอางโทนสีเข้มได้ เริ่มจากลงสกินแคร์และกันแดด จากนั้นลงคอนซีลเลอร์ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาหรือรอยสิว จากนั้นลงรองพื้นบางๆ ให้ทั่วใบหน้า จากนั้นลงแป้งฝุ่นเซ็ตรองพื้น จากนั้นแต่งคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วหรืออายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม จากนั้นลงอายแชโดว์โทนสีเข้มๆ ให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นกรีดอายไลเนอร์เส้นหนาที่ขอบตาด้านบน จากนั้นปัดมาสคาร่าให้ขนตางอนเด้ง และทาลิปสติกสีสดๆ เช่น สีแดง สีส้ม หรือสีม่วง

#แต่งหน้ากันเถอะ
#แต่งหน้ามือใหม่
#ไอเดียแต่งหน้า
#ติดเทรนด์
#เทรนด์2024
#เมคอัพ
#เทคนิคแต่งหน้า
#แต่งหน้า
#อ่อนเยาว์ 2567

มือใหม่ต้องรู้จักวิธีการใช้ขนแปรงอะไรบ้าง

แปรงแต่งหน้าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้การแต่งหน้าออกมาดูสวย เนียน และไม่เป็นคราบ โดยแปรงแต่ละชนิดจะมีรูปทรงและขนาดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานที่แตกต่างกันไป มือใหม่หัดแต่งหน้าจึงควรเรียนรู้วิธีการใช้ขนแปรงแต่ละชนิดให้ถูกต้อง เพื่อจะได้แต่งหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แปรงแต่งหน้าที่ควรมีสำหรับมือใหม่

สำหรับมือใหม่หัดแต่งหน้า แปรงแต่งหน้าที่ควรมีติดไว้ ได้แก่

  • แปรงรองพื้น : ใช้สำหรับเกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้าอย่างเรียบเนียน
  • แปรงคอนซีลเลอร์ : ใช้สำหรับปกปิดรอยคล้ำใต้ตา รอยแดง หรือรอยสิว
  • แปรงปัดแก้ม : ใช้สำหรับปัดแก้มให้ดูมีสีสัน
  • แปรงปัดคิ้ว : ใช้สำหรับวาดคิ้วให้คมชัด
  • แปรงมาสคาร่า : ใช้สำหรับปัดขนตาให้งอนเด้ง
@cloudysstory แปรงแต่งหน้าที่ชอบ 🧸🍨☁️ มือใหม่เซฟไว้ได้เลยยยย &lt3 #tiktoklooks #tiktokป้ายยา #รีวิวบิวตี้ #cloudysstory ♬ LDR – Sped Up – Shoti

วิธีการใช้แปรงแต่งหน้า

วิธีการใช้แปรงแต่งหน้าแต่ละชนิดมีดังนี้

  • แปรงรองพื้น : ใช้ขนแปรงแตะรองพื้นแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือ โดยเริ่มจากบริเวณหน้าผาก แก้ม จมูก และคาง
  • แปรงคอนซีลเลอร์ : ใช้ขนแปรงแตะคอนซีลเลอร์แล้วแต้มลงบนบริเวณที่ต้องการปกปิด จากนั้นเกลี่ยให้กลืนไปกับผิว
  • แปรงปัดแก้ม : ใช้ขนแปรงแตะบลัชออนแล้วปัดแก้มให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ โดยเริ่มจากบริเวณโหนกแก้มขึ้นไปยังแนวขมับ
  • แปรงปัดคิ้ว : ใช้ขนแปรงแตะสีเขียนคิ้วแล้ววาดโครงคิ้ว จากนั้นใช้ขนแปรงเกลี่ยสีเขียนคิ้วให้ทั่วคิ้ว
  • แปรงมาสคาร่า : ใช้ขนแปรงปัดขนตาจากโคนขนตาขึ้นไปจนถึงปลายขนตา โดยปัดไปมาเบาๆ หลายๆ ครั้ง

นอกจากนี้ มือใหม่หัดแต่งหน้าควรฝึกฝนการใช้แปรงแต่งหน้าเป็นประจำ เพื่อให้เกิดความชำนาญและแต่งหน้าได้อย่างสวยและมีประสิทธิภาพ

tag

#สอนแต่งหน้ามือใหม่ 2567
#แต่งหน้ากันเถอะ 2568
#แต่งหน้ามือใหม่
#งบน้อยก็ปังได้
#ซื้อซ้ำวนไป
#ติดเทรนด์ 2024
#สอนแต่งหน้า
#แปรงแต่งหน้า
#มือใหม่แต่งหน้า

ในที่สุดมือใหม่ก็จะแต่งหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ 2567/ 2024

แต่งหน้าลุคตาม ulzzang girl กันค่า

การแต่งหน้าอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับมือใหม่นั้น สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เตรียมผิวให้พร้อม

ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการแต่งหน้า เพราะหากผิวไม่พร้อม เมคอัพก็จะไม่ติดทนและดูไม่เป็นธรรมชาติ การเตรียมผิวให้พร้อมจึงควรเริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาด ทาโทนเนอร์เพื่อช่วยปรับสมดุลผิว และทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว จากนั้นจึงทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดและรังสียูวีที่อาจทำให้ผิวหมองคล้ำและเกิดริ้วรอย

@luvrrukk

มือใหม่หัดGRWM🫡

♬ original sound – loverrukk

2. ลงรองพื้น

รองพื้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยปกปิดจุดด่างดำและรอยคล้ำบนใบหน้า ทำให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ การเลือกรองพื้นให้เหมาะสมกับสภาพผิวและสีผิวจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับมือใหม่ควรเลือกรองพื้นที่มีเนื้อบางเบาและให้การปกปิดปานกลาง เพื่อให้สามารถแต่งหน้าได้ง่ายและดูเป็นธรรมชาติ

3. เซ็ตผิว

หลังจากลงรองพื้นแล้ว ควรใช้แป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็งมาเซ็ตผิว เพื่อช่วยให้รองพื้นติดทนนานยิ่งขึ้น โดยควรเลือกแป้งที่มีเนื้อบางเบาและไม่เป็นคราบ

4. เขียนคิ้ว

คิ้วเป็นกรอบของใบหน้า ดังนั้นการเขียนคิ้วให้สวยจึงเป็นสิ่งสำคัญ มือใหม่ควรเลือกสีคิ้วที่ใกล้เคียงกับสีผมหรือสีขนคิ้วธรรมชาติของตนเอง จากนั้นจึงใช้ดินสอเขียนคิ้วหรือมาสคาร่าคิ้วในการเขียนคิ้วให้ดูเป็นทรงสวย

5. แต่งตา

การแต่งตาสามารถช่วยให้ดวงตาดูโตและโดดเด่นขึ้นได้ มือใหม่ควรเริ่มต้นจากการแต่งตาแบบเบสิค เช่น การแต่งตาด้วยอายแชโดว์สีอ่อนและสีเข้ม หรือการแต่งตาด้วยอายไลเนอร์และมาสคาร่า

6. แต่งแก้ม

บลัชออนจะช่วยเพิ่มสีสันให้กับใบหน้าและทำให้ดูมีเลือดฝาด มือใหม่ควรเลือกบลัชออนที่มีสีอ่อนและเกลี่ยให้ทั่วแก้มอย่างสม่ำเสมอ

7. แต่งปาก

ลิปสติกจะช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มและน่ามอง มือใหม่ควรเลือกลิปสติกที่มีสีเข้ากับโทนสีผิวของตนเอง

8. เติมแต่งรายละเอียด

สำหรับมือใหม่ อาจไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าทุกขั้นตอน สามารถเลือกแต่งเฉพาะส่วนที่ต้องการเน้น เช่น แต่งตาให้สวย แต่งปากให้โดดเด่น หรือเน้นแต่งผิวให้เรียบเนียน เป็นต้น

นอกจากขั้นตอนในการแต่งหน้าแล้ว มือใหม่ยังควรเรียนรู้เทคนิคการแต่งหน้าเพิ่มเติม เช่น เทคนิคการคอนทัวร์และไฮไลท์ที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสวยขึ้น หรือเทคนิคการแต่งตาแบบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง

การฝึกฝนเป็นประจำจะช่วยให้มือใหม่สามารถแต่งหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

tag

#สอนแต่งหน้าง่ายๆ
#แต่งหน้าตามไอดอล
#สอนแต่งหน้าตัวเอง 2568
#คอนทัวร์
#สอนแต่งหน้ามือใหม่
#คอนทัวร์หน้ารูปไข่
#ติดเทรนด์
#ซื้อซ้ำวนไป
#มือใหม่แต่งหน้า 2024
#แต่งหน้ามือใหม่ 2567

สอนแต่งหน้ามือใหม่หัดแต่ง

การแต่งหน้าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงทุกคน การแต่งหน้าสำหรับมือใหม่หัดแต่งอาจเป็นเรื่องยากสักหน่อย แต่หากลองฝึกฝนบ่อยๆ ก็สามารถแต่งหน้าได้อย่างสวยงามและดูเป็นธรรมชาติได้

อุปกรณ์แต่งหน้าสำหรับมือใหม่หัดแต่ง

อุปกรณ์แต่งหน้าสำหรับมือใหม่หัดแต่งมีดังนี้

  • แป้งพัฟหรือแป้งฝุ่น
  • รองพื้น
  • คอนซีลเลอร์
  • อายแชโดว์
  • อายไลเนอร์
  • มาสคาร่า
  • บลัชออน
  • ลิปสติก

ขั้นตอนการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่หัดแต่ง

  1. เตรียมผิว

ก่อนลงเครื่องสำอางใดๆ ควรเตรียมผิวให้สะอาดและชุ่มชื้นด้วยสกินแคร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว จากนั้นลงครีมกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดและริ้วรอย

  1. ลงรองพื้น

รองพื้นเป็นขั้นตอนสำคัญในการปกปิดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ควรเลือกรองพื้นที่เหมาะกับสภาพผิวและเฉดสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวจริง

  1. ลงคอนซีลเลอร์

คอนซีลเลอร์ใช้เพื่อปกปิดรอยสิว รอยดำ รอยแดง และจุดด่างดำเฉพาะจุด

  1. ลงแป้งพัฟหรือแป้งฝุ่น

แป้งพัฟหรือแป้งฝุ่นใช้เพื่อเซ็ตเครื่องสำอางและควบคุมความมันบนใบหน้า

  1. แต่งตา

การแต่งตาสามารถทำได้หลากหลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับความชอบและโอกาสในการแต่งหน้า มือใหม่หัดแต่งอาจเริ่มต้นด้วยการทาอายแชโดว์สีอ่อนๆ บริเวณเปลือกตาด้านในและเพิ่มสีเข้มขึ้นบริเวณหางตา จากนั้นกรีดอายไลเนอร์และปัดมาสคาร่า

  1. แต่งคิ้ว

การแต่งคิ้วช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ มือใหม่หัดแต่งอาจใช้ดินสอเขียนคิ้วหรือมาสคาร่าคิ้วเพื่อเติมแต่งคิ้วให้ดูเข้มขึ้น

@premepromt ตอบกลับ @kafae_skinshop มือใหม่หัดแต่ง ดูให้จบนะงับ ค่อยๆฝึกกันไปน้าา #สอนแต่งหน้า #พรีมพร้อมเมคอัพ #กันแดดโฮลิ @holisunday ♬ Cute and heartwarming song B: Editing 2 – Ken Nakagawa

  1. แต่งหน้าแก้ม

บลัชออนใช้เพื่อเพิ่มสีสันให้กับใบหน้า มือใหม่หัดแต่งอาจใช้บลัชออนสีอ่อนๆ ปัดบริเวณโหนกแก้ม

  1. แต่งปาก

ลิปสติกมีให้เลือกหลากหลายสีสันและเนื้อสัมผัส มือใหม่หัดแต่งอาจเริ่มต้นด้วยลิปสติกสีอ่อนๆ หรือสีนู้ด

เคล็ดลับการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่หัดแต่ง

  • ลงเครื่องสำอางในปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณทีละน้อยจนได้ระดับความเข้มที่ต้องการ
  • เลือกเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิวและเฉดสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวจริง
  • ฝึกฝนบ่อยๆ เพื่อให้แต่งหน้าได้อย่างชำนาญ

ตัวอย่างการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่หัดแต่ง

สำหรับมือใหม่หัดแต่ง อาจเริ่มต้นด้วยการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ โดยใช้เครื่องสำอางน้อยชิ้นและสีสันอ่อนๆ ดังนี้

  • ลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดจุดด่างดำ
  • ลงแป้งพัฟหรือแป้งฝุ่นเพื่อเซ็ตเครื่องสำอาง
  • แต่งตาด้วยอายแชโดว์สีอ่อนๆ บริเวณเปลือกตาด้านในและสีเข้มขึ้นบริเวณหางตา จากนั้นกรีดอายไลเนอร์และปัดมาสคาร่า
  • แต่งคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วหรือมาสคาร่าคิ้ว
  • แต่งหน้าแก้มด้วยบลัชออนสีอ่อนๆ ปัดบริเวณโหนกแก้ม
  • แต่งปากด้วยลิปสติกสีอ่อนๆ หรือสีนู้ด

ตัวอย่างการแต่งหน้าแบบธรรมชาติสำหรับมือใหม่หัดแต่ง [Image of ตัวอย่างการแต่งหน้าแบบธรรมชาติสำหรับมือใหม่หัดแต่ง]

หากต้องการแต่งหน้าให้ดูโดดเด่นขึ้น อาจเพิ่มลูกเล่นต่างๆ เช่น การทาอายแชโดว์สีสันสดใส การกรีดอายไลเนอร์แบบ Cat Eye การปักลายบนใบหน้า เป็นต้น

ตัวอย่างการแต่งหน้าแบบโดดเด่นสำหรับมือใหม่หัดแต่ง

tag

 

แต่งหน้าลุคตาม ulzzang girl กันค่า

แต่งหน้าลุคตาม ulzzang girl กันค่า

ลุค Ulzzang Girl เป็นลุคแต่งหน้าสไตล์สาวเกาหลีที่เน้นความสดใส น่ารัก แต่งแล้วดูเป็นธรรมชาติ ลุคนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นเกาหลีและทั่วโลก

การแต่งหน้าลุค Ulzzang Girl นั้นสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่มีเครื่องสำอางพื้นฐานและอุปกรณ์แต่งหน้าเพียงไม่กี่ชิ้น ก็สามารถแต่งตามได้ง่ายๆ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมผิว

ขั้นแรก เริ่มต้นด้วยการเตรียมผิวให้สะอาดและเนียนเรียบ โดยเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่ง ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า แล้วตามด้วยโทนเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์

ขั้นตอนที่ 2: ลงรองพื้น

เลือกรองพื้นเนื้อบางเบาที่เข้ากับสีผิวของคุณ เกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้าและลำคอ โดยเน้นบริเวณที่มีปัญหา เช่น รอยแดง รอยดำ หรือจุดด่างดำ

ขั้นตอนที่ 3: คอนทัวร์และไฮไลท์

ใช้คอนทัวร์เพื่อเพิ่มความคมชัดให้กับใบหน้า และไฮไลท์เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้า โดยเน้นบริเวณโหนกแก้ม สันจมูก และหน้าผาก

ขั้นตอนที่ 4: เขียนคิ้ว

เขียนคิ้วให้เข้ากับรูปหน้าของคุณ โดยเน้นให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาหรือบางจนเกินไป

ขั้นตอนที่ 5: ทาอายแชโดว์

ใช้อายแชโดว์โทนสีอ่อนทาทั่วเปลือกตา จากนั้นใช้อายแชโดว์โทนสีเข้มทาที่ขอบตาด้านนอกและโคนหางตา เพื่อเพิ่มความลึกให้กับดวงตา

ขั้นตอนที่ 6: กรีดตา

ใช้อายไลเนอร์กรีดตาให้ยาวขึ้น โดยเน้นให้ตาดูโตและกลมโต

ขั้นตอนที่ 7: ติดขนตาปลอม

ติดขนตาปลอมเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับดวงตา

ขั้นตอนที่ 8: ทามาสคาร่า

ปัดมาสคาร่าให้ขนตางอนงาม

ขั้นตอนที่ 9: ทาลิปสติก

ทาลิปสติกโทนสีอ่อนหรือสีชมพูระเรื่อ เพื่อให้ลุคดูน่ารักและสดใส

เคล็ดลับการแต่งหน้าลุค Ulzzang Girl

  • เน้นการใช้เครื่องสำอางเนื้อบางเบา เพื่อให้ลุคดูเป็นธรรมชาติ
  • เลือกโทนสีเครื่องสำอางให้เข้ากับสีผิวของคุณ
  • เน้นการแต่งตาให้ดูโดดเด่น เพื่อดึงดูดสายตา
  • แต่งปากให้ดูอ่อนหวานและน่ารัก

แต่งหน้าลุคตาม ulzzang girl กันค่า

เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถแต่งหน้าลุค Ulzzang Girl ได้อย่างง่ายดาย ลุคนี้สามารถแต่งได้ทุกวัน ไม่ว่าจะไปเรียน ไปทำงาน หรือไปปาร์ตี้ ก็ดูดีได้เสมอ