ผิวแตกต่างกันจะดูแลอย่างไรดี!?

ผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม และการดูแลรักษาผิว ดังนั้นการดูแลผิวให้เหมาะสมกับสภาพผิวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีและดูสวยงาม

1. ผิวแห้ง

ผิวแห้งมักจะขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และมีริ้วรอยได้ง่าย ผิวแห้งมักเกิดจากการที่ร่างกายผลิตน้ำมันตามธรรมชาติไม่เพียงพอ หรืออาจเกิดจากการล้างหน้าบ่อยเกินไป การใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่รุนแรงเกินไป การอาบน้ำอุ่นจัดเป็นเวลานาน และการอยู่ในสภาพอากาศแห้งเป็นเวลานาน

7 ทริคสวยขึ้ง่ายๆจนใครๆต้องหันมอง 2567
การดูแลผิวแห้งให้เหมาะสมนั้นควร

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมที่รุนแรง
  • อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นอุณหภูมิปกติ และไม่ควรอาบน้ำนานเกินไป
  • ทาครีมบำรุงผิวหลังอาบน้ำทันทีเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผลไม้ ผัก และปลาต่างๆ

2. ผิวมัน

ผิวมันมักจะผลิตน้ำมันตามธรรมชาติมากเกินไป ทำให้ผิวดูมันเยิ้มตลอดเวลา ผิวมันมักเกิดจากการที่ร่างกายผลิตน้ำมันตามธรรมชาติมากเกินไป การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสม และการล้างหน้าบ่อยเกินไป

การดูแลผิวมันให้เหมาะสมนั้นควร

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและมีส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมัน
  • ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
  • ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือกรดไกลโคลิกเพื่อช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินออกจากผิว
  • ทาครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน

3. ผิวผสม

ผิวผสมเป็นสภาพผิวที่มีลักษณะเป็นผิวมันบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก และคาง) และผิวแห้งบริเวณแก้ม ผิวผสมมักเกิดจากการที่ร่างกายผลิตน้ำมันตามธรรมชาติไม่เพียงพอในบางบริเวณ

การดูแลผิวผสมให้เหมาะสมนั้นควร

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมที่รุนแรง
  • ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือกรดไกลโคลิกเพื่อช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินออกจากผิวทีโซน
  • ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันบริเวณแก้มที่แห้ง และทาครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันบริเวณทีโซน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผลไม้ ผัก และปลาต่างๆ

4. ผิวแพ้งง่าย

ผิวแพ้งง่ายเป็นสภาพผิวที่มีความไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ ได้ง่าย เช่น สารเคมี น้ำหอม สี สารกันเสีย หรือแม้แต่สภาพอากาศ ผิวแพ้งง่ายมักมีอาการระคายเคือง ผื่นแดง คัน และอาจมีอาการบวมได้

การดูแลผิวแพ้งง่ายให้เหมาะสมนั้นควร

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมที่รุนแรง
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี สารกันเสีย หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดการแพ้
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ผ่านการทดสอบว่าไม่ทำให้เกิดการแพ้
  • ป้องกันผิวจากรังสี UV ด้วยครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด และหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกะทันหัน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผลไม้ ผัก และปลาต่างๆ

7 ทริคสวยขึ้ง่ายๆจนใครๆต้องหันมอง 2567

Dai Chong Gu Lung Lifhea 0

แขร์ 7 วิธีง่ายๆ สวยขึ้นได้ทันที

7 ทริคสวยขึ้ง่ายๆจนใครๆต้องหันมอง 2567

ดูแลผิวพรรณให้สะอาดและชุ่มชื้นอยู่เสมอ

ล้างหน้าด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ และทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ ทั้งเช้าและก่อนนอน ผิวที่สะอาดและชุ่มชื้นจะดูเปล่งปลั่งและมีชีวิตชีวาขึ้น

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนต่างๆ ให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวัน อาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้สุขภาพดี ผิวพรรณดี และมีพลังงานมากขึ้น

ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

น้ำเปล่าช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้ ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันเพื่อให้ผิวของคุณดูสดใสและมีชีวิตชีวา

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินและช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับ ทำให้คุณดูผอมเพรียวและมีสุขภาพดีมากขึ้น นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองและฟื้นฟูพลังงาน ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีสุขภาพดีในวันถัดไป นอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนเพื่อให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่งและมีชีวิตชีวา

จัดแต่งทรงผมและเครื่องสำอางให้เหมาะกับคุณ

เลือกทรงผมและเครื่องสำอางที่เหมาะกับรูปหน้าและสไตล์ของคุณ แต่งหน้าเบาๆ เพื่อเน้นจุดเด่นและปกปิดจุดด้อยบนใบหน้าของคุณ

มีทัศนคติที่มั่นใจ

เคล็ดลับสุดท้ายสำหรับการสวยขึ้นอย่างง่ายดายคือการมีทัศนคติที่มั่นใจในตัวเอง การมีทัศนคติที่ดีจะทำให้คุณดูมีเสน่ห์และน่าดึงดูดมากขึ้น

8 วิธีง่าย ๆ ช่วยให้เราฉลาดขึ้น 2567

ความฉลาดของคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว แต่สามารถพัฒนาได้ด้วยการฝึกฝน การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และการทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ต่อไปนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้เราฉลาดขึ้นได้ 2567

1. เริ่มต้นด้วยความเชื่อมั่นว่า “ฉันฉลาดขึ้นได้!”

สิ่งสำคัญที่สุดในการที่จะฉลาดขึ้นได้ก็คือการมีทัศนคติที่ดีต่อตัวเอง เชื่อว่าตัวเองสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเติบโตได้อยู่เสมอ นักจิตวิทยาเรียกสิ่งนี้ว่า Growth Mindset ซึ่งตรงข้ามกับ Fixed Mindset ที่เชื่อว่าสติปัญญาเป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก

หากเรามี Growth Mindset เราก็จะมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่กลัวที่จะท้าทายตัวเอง และพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น

2. ฝึกฝนสมองเป็นประจำ

สมองของเราเปรียบเสมือนกล้ามเนื้อ หากเราไม่ได้ใช้งานบ่อย ๆ สมองก็จะฝ่อและอ่อนแอลง การฝึกฝนสมองเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เราสามารถฝึกฝนสมองได้หลากหลายวิธี เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกสมอง เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ หรือเล่นกีฬา

3. เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จะช่วยให้สมองของเราได้พัฒนาและเติบโต เราสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้หลากหลายวิธี เช่น อ่านหนังสือ ฟังบรรยาย ดูสารคดี หรือพูดคุยกับคนมีความรู้

4. กระตุ้นสมองด้วยกิจกรรมที่ท้าทาย

การทำกิจกรรมที่ท้าทายจะช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น เล่นปริศนา เล่นหมากรุก หรือทำกิจกรรมศิลปะ

5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้สมองได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง สมองจะมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นเมื่อได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ

6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อาหารที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยให้สมองได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

8. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำลายสมอง

ปัจจัยที่ทำลายสมอง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และการใช้สารเสพติด ล้วนส่งผลเสียต่อความฉลาดของเรา

หากเราทำตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราฉลาดขึ้นและสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สอนวิธีดูว่าตัวเองมีหน้าแบบไหน 2567

Face Shape5.jpg

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้จะมาสอนทุกคนตัดสินใบหน้าของตัวเองกันนะคะว่าตัวเองเป็นคนมีใบหน้าแบบไหนกันแน่และถ้าหากว่าหลังจากที่รู้ผลลัพธ์แล้วเหมาะกับการตัดผมทรงไหนก็มาดูกันเลยค่ะ

Step การลงสกินแคร์ตอนกลางคืน 2567/ 2024

เพียงแค่อ่านบทความนี้ง่ายง่ายเท่านี้เองทุกคนก็จะสามารถรู้รูปร่างของใบหน้าตัวเองได้และเลือกทรงผมให้เข้ากับหน้าได้ง่ายง่ายแล้วค่ะ

ประเภทของรูปหน้า

  1. หน้ารูปหัวใจ เป็นรูปทรงหน้าที่ดูสวยและมีเสน่ห์กว่าใคร เริ่มตั้งแต่หน้าผากจะมีความคล้ายรูปวาดหัวใจมีไรผมแหลมลงมาที่กลางหน้าผาก จากหน้าผากลงมาถึงคาง ส่วนกรอบหน้าจะค่อย ๆ เรียวลงมาจนถึงส่วนคางซึ่งจะมีความมนเหมือนปลายรูปหัวใจ
  2. หน้ารูปสี่เหลี่ยม รูปหน้าแบบนี้มีความกว้างและความยาวพอๆ กัน กรอบหน้าสองข้างค่อนข้างตรงลงมา ปลายคางตัด และมีสันกรามที่ค่อนข้างกว้างจึงทำให้ดูเป็นเหลี่ยม
  3. รูปหน้ากลม ลองนึกถึงวงกลมเทียบกับใบหน้า คือมีความกว้างและความยาวของหน้าเกือบเท่ากันทุกองศา ช่วงที่กว้างที่สุดจะเป็นช่วงโหนกแก้ม หน้าผากกับช่วงกรามจะเล็กกว่า ลักษณะช่วงกรามจะมีรูปมนๆ
  4. หน้ารูปไข่ เป็นอีกหนึ่งรูปทรงใบหน้าที่หลายคนชอบ ด้วยความยาวของใบหน้าจะมากกว่าความกว้าง ส่วนหน้าผากจะกว้างกว่าช่วงกราม ส่วนของกรามและคางจะมนเรียวได้รูป เมื่อดูภาพรวมของใบหน้าก็จะมีความมน ดูสวยแบบมีมิติ
  5. รูปหน้ายาว มีลักษณะคล้ายกับหน้ารูปไข่เหมือนกันแต่จะมีความยาวมากขึ้นจากส่วนหน้าผากและคาง กรอบหน้าเล็ก เมื่อมองภาพรวมจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความยาวใบหน้าจะมากกว่าด้านข้าง
  6. รูปหน้าสามเหลี่ยมหรือตัววี รูปหน้า V-Shape ที่สาว ๆ ไฝ่ฝันและนิยมทำหน้าเรียวกันมาก คือโครงหน้าที่เหมือนสามเหลี่ยมกลับหัวเนื่องจากมีส่วนหน้าผากกว้างและสูง มีเส้นกรอบหน้าแคบเรียวลงมาจนถึงส่วนคาง ในขณะที่ส่วนคางจะแหลมจนเห็นได้ชัดคล้ายเป็นเป็นตัววี
  7. ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือรูปเพชร นึกภาพสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ใบหน้ารูปแบบนี้จะมีส่วนโหนกแก้มกว้างที่สุด  หน้าผากกับบริเวณสันกรามจะไล่เลี่ยกัน

4 สเต็ปเช็ครูปหน้าตัวเอง เพื่อการแต่งหน้าที่ปังยิ่งขึ้น !!! – AKERU

เทคนิคการดูรูปหน้าของตัวเองว่าเป็นแบบไหน

สำหรับใครที่อยากรู้ว่ารูปหน้าของตนเป็นอย่างไร สามารถวัดได้ดังนี้

  1. วัดส่วนกว้างที่สุดของใบหน้าจากซ้ายไปขวา
  2. วัดความยาวที่สุดของใบหน้า จากบริเวณไรผมตรงหน้าผากลงมาจรดปลายคาง
  3. วัดจากสันกรามมาถึงคางเป็นอีกส่วนที่ใช้ประกอบการพิจารณาว่ามีรูปหน้าแบบไหน
  4. อย่างไรก็ตามขนาดใบหน้าของแต่ละคนไม่เท่ากันจึงจำกัดความด้วยตัวเลขได้ยาก ทั้งนี้ให้เทียบสัดส่วนด้านกว้าง ด้านยาวของกรอบหน้า จากนั้นเปรียบเทียบกับคำจำกัดความของรูปหน้าประเภทต่างๆ ก็จะรู้ว่ามีตัวเองมีรูปหน้าแบบไหน

tag

วิธีดูว่าหน้าตัวเองเป็นรูปอะไร
รูปหน้าผู้หญิงมีกี่แบบ
โครงหน้าคนเรามีกี่แบบ
ใบหน้าที่สวยเป็นแบบไหน

8 สัญญาณเตือนของโรคซึมเศร้า

ใครที่เครียดมากๆหรือมีภาวะเครียดบ่อยๆ ลองมาเช็ค 8 สัญญาณเตือนของโรคซึมเศร้ากันดีกว่าว่าสิ่งที่เรากำลังเป็นอยู่แค่เครียดหรือว่าเป็นโรคซึมเศร้า แต่❗แต่❗ แต่❗ โรคซึมเศร้าสามารถรักษาหายได้นะคะ และการที่เราหรือคนใกล้ตัวเรากำลังเผชิญปัญหานี้กันอยู่ อยากให้ใจเย็นๆและคอยรับฟังปัญหาของคนเหล่านี้กันนะคะ มาร่วมส่งกำลังใจให้ใครก็ตามที่กำลังรักษาและสู้กับโรคนี้อยู่ ขอให้พวกเค้าและตัวเราเองเจอสายรุ้งสวยๆหลังฝนตกไวๆ

ปัจจัยที่ทำให้เกิด “โรคซึมเศร้า”

1. พันธุกรรม

2. การเลี้ยงดู บุคลิกภาพ เช่น คนที่มองโลกในแง่ลบ ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ

3. ความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง อาจจะเกิดจากเหตุการณ์บางอย่างมากระตุ้น เช่น การสูญเสียคนรัก หรือเจ็บป่วยประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น

Ngủ ngon Fancl Nhật Bản

8 สัญญาณเตือนของโรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตเวชที่ส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดและพฤติกรรมได้อย่างมาก โดยสัญญาณเตือนของโรคซึมเศร้าสามารถสังเกตได้ดังต่อไปนี้

  1. รู้สึกเศร้าหรือหมดหวังเป็นเวลานาน คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะรู้สึกเศร้าหรือหมดหวังมากกว่าปกติเป็นเวลานานติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  2. สูญเสียความสนใจหรือความสุขในกิจกรรมที่เคยชอบ คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะสูญเสียความสนใจหรือความสุขในกิจกรรมที่ตนเองเคยชอบทำเป็นประจำ เช่น ไม่สนใจออกไปพบปะเพื่อนฝูงเหมือนแต่ก่อน หรือไม่อยากออกกำลังกายเหมือนที่เคยทำ
  3. มีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักหรือความอยากอาหาร คนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก หรือความอยากอาหาร เช่น น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ
  4. มีปัญหาในการนอนหลับ คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักมีปัญหาในการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับหรือนอนหลับมากเกินไป
  5. รู้สึกเหนื่อยล้าหรือไร้พลัง คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะรู้สึกเหนื่อยล้าหรือไร้พลังแม้ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย
  6. รู้สึกไร้ค่าหรือรู้สึกผิด คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะรู้สึกไร้ค่าหรือรู้สึกผิดในเรื่องต่างๆ โดยที่บางครั้งอาจไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมจึงรู้สึกเช่นนั้น
  7. มีปัญหาในการตัดสินใจหรือจดจำสิ่งต่างๆ คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักมีปัญหาในการตัดสินใจหรือจดจำสิ่งต่างๆ แม้จะเป็นเรื่องง่ายๆ
  8. คิดถึงความตายหรือการฆ่าตัวตาย คนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจมีความคิดเกี่ยวกับความตายหรือการฆ่าตัวตาย ซึ่งหากมีอาการนี้ควรไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตทันที

 

จากที่ไม่เคยมีสิว แต่จู่ๆสิวบุกก!

จากหน้าใสๆ แล้วสิวบุกแบบกะทันหัน ไปดูวิธีรับมือและรักษากันนน

จากที่ไม่เคยมีสิว แต่จู่ๆสิวบุกก!! ทำไงดี

  1. ล้างหน้าอย่างถูกวิธี

  • ล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว
  • เมื่อล้างหน้า ควรล้างด้วยน้ำอุ่นเพื่อเปิดรูขุมขนและช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกได้ง่ายขึ้น
  • หลังจากล้างหน้าแล้ว ควรเช็ดหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ แทนการใช้กระดาษทิชชู่ที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
  1. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่รุนแรง

  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่รุนแรง เช่น โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือแอลกอฮอล์ และครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือพาราเบน อาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน มีค่า pH ที่เหมาะกับผิว และได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนัง
  1. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า

  • มือเป็นแหล่งรวมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก เมื่อใช้มือสัมผัสใบหน้าอาจนำพาแบคทีเรียและสิ่งสกปรกไปอุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิวได้
  • หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสิว และหากจำเป็นต้องสัมผัสใบหน้าควรล้างมือให้สะอาดก่อน
  1. รักษาความสะอาดของเครื่องสำอางและแปรงแต่งหน้า

  • เครื่องสำอางและแปรงแต่งหน้าเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรก หากไม่รักษาความสะอาดอาจนำพาไปสู่การอุดตันของรูขุมขนและการเกิดสิวได้
  • ควรทำความสะอาดเครื่องสำอางและแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ โดยล้างแปรงแต่งหน้าด้วยน้ำยาทำความสะอาดเครื่องสำอางหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ และทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วยผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว
  1. ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว

  • การทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีน จะช่วยให้ผิวสุขภาพดีและลดโอกาสการเกิดสิวได้
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดสิว เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารแปรรูป และอาหารที่มีไขมันสูง

kem trị mụn của Nhật

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

  • การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งอาจนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขนและการเกิดสิวได้
  • ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน

รูขุมขนกว้าง ทำยังไงได้บ้าง⁉️

ส่วนผสมในสกินแคร์ที่ควรมองหา

รูขุมขนผิวมัน:

ดูดซับน้ำมัน >> ดินขาว(white clay)

ผลัดเซลล์ผิว >> BHA ,AHA ,PHA

ควบคุมความมัน >> วิตามินบี 6 ,วิชฮาเซล (Witch Hazel) ,

ที ทรี ออยล์ (Tea Tree Oil), ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)

My Skincare Wist list

🛍 artistry signature select purifying mask

🧾ราคา: 1,044 บาท (ขนาด 100 กรัม)

✨เหตุผลที่อยากได้: ใช้พอกหน้าระหว่างสัปดาห์ 1-2ครั้ง ช่วยลดความมันได้ดี รูขุมขนสะอาด กลิ่นหอมสดชื่น ล้างออกง่าย หลังพอกหน้ารู้สึกผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่งหน้าแล้วไม่เยิ้ม รู้สึกได้เลยว่าผิวมันน้อยลง สบายผิวขึ้น

Step การลงสกินแคร์ตอนกลางคืน 2567/ 2024

รูขุมขนกว้างขาดน้ำ

เติมน้ำเติมความชุ่มชื้น >> กรดไฮยาลูโรนิก, สควาเลน

ซ่อมแซมผิว >> วิตามินบี 5 , เซราไมด์

เก็บกักความชุ่มชื้น >> กลีเซอรีน

My Skincare Wist list

🛍 อาร์ทิสทรี สกิน นิวทริชั่น ไฮเดรทติ้ง เจล ครีม

🧾 ราคา: 1,650 บาท (ขนาด 50ml.)

✨ เหตุผลที่อยากได้: ชอบความรู้สึกตอนทามากเลยเหมือนผิวได้ดื่มน้ำ แบบสดชื่นมากจริงๆนะ แล้วผิวก็ดูเรียบเนียนขึ้น

รูขุมขนอุดตัน

ดูดซับน้ำมัน >> ดินขาว(white clay)

ผลัดเซลล์ผิว >> กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid),

กรดไกลโคลิค (Glycolic Acid), Retinoids

เติมน้ำเติมความชุ่มชื้น >> ไฮยาลูโรนิก,สควาเลน

รูขุมขนแก่กว่าวัย

ผลัดเซลล์ผิว + Anti-aging >> เรตินอล

ต้านอนุมูลอิสระ >> แอสตาแซนธิน วิตามินซี

เติมน้ำเติมความชุ่มชื้น >> ไฮยาลูโรนิก,สควาเลน

My Skincare Wist list

🛍 อาร์ทิสทรี อินเท็นซีฟ สกินแคร์ แอดวานซ์ สกิน รีฟินิเชอร์

🧾 ราคา: 3,136 บาท (ขนาด 50ml.)

✨ เหตุผลที่อยากได้: น้องช่วยกระชับรูขุมขน และควบคุมความมัน พร้อมสัมผัสที่นุ่มเนียน ไม่เหนอะหนะผิว ช่วยให้แต่งหน้าดีขึ้น ทุกครั้งที่ทาจะชอบเผลอลูบหน้าเล่น ลื่นๆเพลินๆ😄 ราคาสูงหน่อย แต่ก็ชอบนะะะ อยากใช้อีก

My Skincare Wist list

🛍 artistry skin nutrition vitaminC+HA3 daily serum

🧾ราคา: 1,900 บาท (ขนาด 12ml. + 1.34g)

งงมั้ย ทำไมขนาดดูแปลกๆ ก็เพราะว่าน้องเขามา2ชิ้น ให้เรามาผสมเอง เหมือนได้ใช้วิตามินซีแบบสดใหม่

✨เหตุผลที่อยากได้: เป็นเซรั่มลูกรักตั้งแต่สูตรเก่าเลย บอกได้คำเดียวว่าน้องคือจุดเริ่มต้นของสภาพผิวที่ดีขึ้นของเราจริงๆ

📍พิกัด: เซรั่มวิตามินซี+ไฮยาลูรอน

ลองไปปรับใช้กันดูนะคะ ^^

tag

รูขุมขนกว้าง
ผิวมันขาดน้ำ
ผิวมัน
สิวอุดตัน
สิวเสี้ยน
เรื่องผิวผิว

Step การลงสกินแคร์ตอนกลางคืน 2567/ 2024

การบำรุงผิวตอนกลางคืนก็สำคัญไม่แพ้ตอนกลางวันเลย เพราะตอนเรากำลังนอน ผิวของเราจะอยู่ในโหมดซ่อมแซมตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้ผิวซ่อมแซมตัวเองให้ได้ดีที่สุด!

มีอยู่ 11 สเต็ปที่เราคิดว่าควรจะทำใน PM routine มาก เริ่มจาก:

Step Skincare (Night Skincare)

ลำดับการลงคือเราจะยึดความเข้มข้นของเนื้อสัมผัสเป็นหลัก โดยจะเริ่มจากเบาไปหนัก

1. Makeup Remover

เราควรเช็คเครื่องสำอางให้สะอาดทุกครั้งก่อนล้างด้วยโฟมในขั้นตอนต่อไป เพราะใบหน้าเจอสารเคมีจากเครื่องสำอาง ฝุ่นและมลภาวะต่างๆอีก

2. Cleansing

โฟมหรือเจลล้างหน้า ล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างอยู่บริเวณใบหน้า

3. Toner

เช็ดโทนเนอร์ทั่วใบหน้า เพื่อปรับสภาพผิวหลังล้างหน้าให้พร้อมบำรุง ให้สกินแคร์ซึมลงผิวได้ดียิ่งขึ้น

4. Acne Spot

ควรทาก่อนที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ทาบางๆแล้วนวดจนเนื้อครีมซึมเข้าผิว

5. Essence

เอสเซนส์ หรือ น้ำตบ เพื่อให้ซึมลงไปที่ชั้นใต้ผิวหนัง กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ผิวหน้าอิ่มน้ำ

6. Serum

บำรุงผิวอย่างล้ำลึกด้วยเซรั่ม สามารถเลือกใช้ได้ตามปัญหาของผิวเราได้เลย

7. Sheet Mask

การมาส์กหน้าทุกวัน เพราะมาส์กชีท 1 แผ่น บำรุงผิวที่ล้ำลึกช่วยให้หน้าชุ่มชื่น อิ่มน้ำ กระจ่างใส ไม่แห้งกร้าน

8. Eye Cream

ผิวรอบดวงตาของเราแห้งทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย อย่าลืมบำรุงให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ

9. Moisturizer

ครีมบำรุงผิวช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างล้ำลึก

10. Sleeping Mask

การล็อคความชุ่มชื้นไว้กับผิว ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน อิ่มน้ำและได้รับการฟื้นฟูตลอดการนอนอีกด้วย

11. Lip Sleeping Mask

ทาลิปมาสก์หนา ๆ ให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ไม่แห้งลอก

❣️อย่าลืม!! อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเองน้าาาา

การดูแลผิวแต่ละช่วงวัยอย่างไรให้ถูกวิธี?

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยใด การดูแลผิวที่ถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีผิวที่สุขภาพดีและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณและปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ

แชร์ทริคลงสกินแคร์ยังไงให้ปัง

สกินแคร์สำหรับอายุ 15-18 ปี

ขั้นตอนการดูแลผิว- ตอนเช้า : คลีนซิ่ง โลชั่น กันแดด- ตอนเย็น: มาส์กทำความสะอาด>โลชั่นน้ำ

มาส์ก: มาส์กให้ความชุ่มชื้นหลัก สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

ดูแลผิว: ให้ความชุ่มชื้น ให้ความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากแสงแดด สิว

ปกป้องผิวจากแสงแดด: หมวก แขนยาว ฯลฯ ใช้ครีมกันแดดอย่างเหมาะสม

Step ดูแลผิวเช้า-กลางคืน 2024

💜การดูแลผิวอายุ 19-24 ปี

ขั้นตอนการดูแลผิว

เช้า: คลีนซิ่ง-โทนเนอร์, ครีมบำรุงรอบดวงตา, เอสเซ้นส์, โลชั่น/ครีมทาหน้า > ครีมกันแดด ไนท์: เมคอัพรีมูฟเวอร์, คลีนซิ่งมาส์ก > โทนเนอร์, อายครีมเอสเซ้นส์, โลชั่นมาส์ก: มอยส์เจอไรเซอร์ มาส์ก, การใช้มาสก์ที่เหมาะสม

💜อายุ 25-30 ปี

ขั้นตอนการดูแลผิว

เช้า: คลีนซิ่งโทนเนอร์ Essence Lotion/Facial Cream ครีมกันแดด ช่วงเย็น: Makeup Remover Cleansing Toner Mask Eye Cream > Essence Lotion Cycle Care: การผลัดเซลล์ผิวอย่างเหมาะสม, มาสก์ Skin Care จุด: มอยซ์เจอไรเซอร์, ครีมกันแดด, ต่อต้านริ้วรอย, ต่อต้านวัย, สารต้านอนุมูลอิสระ 25 เพื่อเริ่มต้น การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาต่อต้านริ้วรอยหลังวัยสามารถเปิดช่องผิวและส่งเสริมการดูดซึมของผลิตภัณฑ์ที่ตามมา

💜ผู้ใหญ่: 31-45 ปี

ขั้นตอนการดูแลผิว

เช้า: คลีนซิ่งโทนเนอร์ & ฐานของกล้ามเนื้อ > อายครีม เอสเซ้นส์โลชั่น/ครีมทาหน้า ครีมกันแดด ช่วงเย็น: เมคอัพรีมูฟเวอร์ > คลีนซิ่งโทนเนอร์ มาส์กครีมบำรุงรอบดวงตา เอสเซ้นส์อิมัลชั่น การดูแลรายสัปดาห์: ขัดผิวที่เหมาะสม, มาส์กเพื่อการทำงาน หลังจากเร่งอายุผิว ลดการแตะมือ ใช้ใบหน้า เช็ดหน้า นอนดึก ออกกำลังกายเยอะๆ เหงื่อออก(ผิวจะแดงและบอบบาง)

💜 วัย 50 ปีขึ้นไป (อายุ 45 – 59 ปี) “งามสมวัย”

ช่วงอายุนี้ผิวจะแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด ทิ้งร่องรอยของวัยไว้หลายจุด ขนาดของรูขุมขนจะขยายจนเห็นได้ และจุดด่างดำก็เกิดขึ้นได้ง่ายอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าสู่ช่วงภาวะหมดประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจะยิ่งทำให้ผิวแห้งและแพ้ได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก

วิธีดูแลผิวของสาว 45 ปีขึ้นไป

เริ่มต้นด้วยการเติมน้ำมันให้แก่ผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีเนื้อครีม และเติมความชุ่มชื้นด้วยครีมบำรุงผิวในคราวเดียวกัน เลือกบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อครีมข้น และมีส่วนผสมของ วิตามินอี เพื่อปกป้องผิวและเพิ่มความนุ่มเนียน มีโพลีเปปไทด์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และมีเรตินอลเพื่อช่วยลบริ้วรอยแห่งวัย นอกจากนั้นควรทำทรีตเมนต์ กระตุ้นการขจัดเซลล์ผิวเก่า และเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เป็นการช่วยบำรุงผิวพรรณ และลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัยให้ผิวแลดูเปล่งปลั่งสดใส

แต่ละช่วงวัยมีความสวยในแบบเฉพาะของตนเอง ค้นหาให้เจอ เพื่อเปล่งประกายความงามจากภายในออกมาอวดกัน

แชร์ทริคลงสกินแคร์ยังไงให้ปัง

สาวๆ คนไหนที่มีสกินแคร์ใน Routine เยอะ หรือยังงงกับขั้นตอนลงสกินแคร์อยู่บ้างยกมือขึ้น วันนี้เรามาแชร์ทริคง่ายๆ ในการเรียงลำดับลงอะไรก่อน – หลัง จากเนื้อสัมผัสที่เหลวสุดไปข้นสุดนั่นเอง

แชร์ทริคลงสกินแคร์ยังไงให้ปัง 2567

ทำความรู้จักสภาพผิวของตัวเองก่อน

สภาพผิวมีหลายประเภท เช่น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวเป็นสิวง่าย หากรู้จักสภาพผิวของตัวเอง คุณจะเลือกสกินแคร์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพราะสกินแคร์บางประเภทอาจทำให้ผิวของคุณแห้งหรือมันมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผิว เช่น สิว ผื่นแดง หรือรอยเหี่ยวย่นได้

เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว

เมื่อคุณทราบสภาพผิวของตัวเองแล้ว คุณก็สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณได้ ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณจะช่วยปรับปรุงสุขภาพผิวของคุณและช่วยลดปัญหาผิวที่คุณมีอยู่ได้ หากคุณไม่แน่ใจว่าสภาพผิวของคุณคือประเภทใดหรือไม่แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ใดเหมาะกับสภาพผิวของคุณ คุณสามารถปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเพื่อขอคำแนะนำได้

ใช้อย่างสม่ำเสมอและมีวินัย

เพื่อให้สกินแคร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องใช้อย่างสม่ำเสมอและมีวินัย การใช้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สกินแคร์ซึมซาบเข้าสู่ผิวของคุณได้อย่างล้ำลึกและเห็นผลได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

นวดเบาๆ เพื่อให้เนื้อสกินแคร์ซึมซาบเข้าสู่ผิว

เมื่อคุณทาผลิตภัณฑ์ลงบนผิว ให้ใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ เพื่อกระตุ้นให้เนื้อสกินแคร์ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การนวดเบาๆ ยังช่วยให้คุณผ่อนคลายและสบายตัวได้อีกด้วย

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพร่างกายและผิวของคุณ น้ำช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื่นและเปล่งปลั่ง หากคุณดื่มน้ำไม่เพียงพอ ผิวของคุณอาจแห้งและหยาบกร้านได้